ผัว-เมีย ร้อง! เที่ยวงานวัดถูกแก๊งต้มตุ๋น ชวนเล่นเกมวงล้อเสี่ยงทาย เอาเงินยัดมือ ก่อนอ้างติดเงิน 2,000 บาท บอกไม่มีให้ ยกพวกนับ 10 รุมกระทืบสลดกลางงานวัด เผยแจ้งตำรวจแล้วแต่คดีไม่คืบ

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 15 มี.ค. น.ส.เต่า (นามสมมติ) อายุ 38 ปี ชาวจ.ปทุมธานี ได้ร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าวว่า ถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอกเล่นเกม โดยมีหน้าม้ายื่นเงินให้ช่วยเดิมพันวงล้อเสี่ยงโชค และอ้างว่าเป็นหนี้ 4,000 บาท พอปฏิเสธก็ถูกกลุ่มมาเฟียล็อกคอกดกับพื้นเรียกพวกกว่า 10 คน มารุมกระทืบจนสลบคาที่ โดยน้องชายที่เข้ามาช่วยก็ถูกตีจนคิ้วแตกบาดแผลเต็มตัว หลังเกิดเหตุได้เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว แต่คดีไม่คืบหน้า จึงอยากให้ตำรวจจับตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นภายในงานบุญเททองหล่อพระประจำปีของวัดเสด็จ ต.สวนพริกไทย อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-12 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยภายในงานมีการแสดงวงดนตรี รำวงย้อนยุค พร้อมร้านอาหารจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีร้านปาโป่งปาเป้า บิงโก ที่มีสิ่งของหลากหลายชนิดเป็นรางวัล และมีร้านวงล้อเสี่ยงโชค ที่มีรางวัลเป็นของราคาสูง เช่น สร้อยคอทองคำ โทรศัพท์มือถือ สุราต่างประเทศ และเงินสดหลายหมื่นบาท รวมแล้วกว่า 30 ร้าน ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดดังกล่าว

น.ส.เต่ากล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ไปกินก๋วยเตี๋ยวภายในงานวัดเสด็จ โดยมีแฟนและน้องชายอีก 2 คน รวมแล้ว 4 คน เมื่อเดินไปเห็นคนมุงดูร้านเกมวงล้อหมุนเสี่ยงทาย จึงได้ไปยืนดู จากนั้นมีหญิงสาวผมสีแดง เข้ามาพูดคุยกับตนว่า “เจ้ๆ แทงให้หนูหน่อย” จากนั้นหญิงคนดังกล่าวได้ยัดเงิน 2,000 บาท ใส่ในมือ พร้อมกับย้ำบอกว่า “เจ้ไม่ต้องกลัว หนูให้เจ้แทงให้หนู” ตนจึงวางเงินไปโดยที่ไม่รู้ว่าการเล่นวงล้อหมุนนี้เล่นอย่างไร เมื่อวางเงินไปแล้ว ผู้หญิงคนนั้นบอกว่า “เจ้ติดเงินหนู 2,000 บาทนะ”

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

น.ส.เต่ากล่าวต่อว่า จากนั้นมีแฟนของหญิงคนดังกล่าว เดินเข้ามาบอกให้กลับบ้าน ผู้หญิงคนดังกล่าวบอกว่ายังกลับไม่ได้ โดยระบุว่า ตนติดเงินเขาอยู่ 2,000 บาท และยังไม่จ่ายให้เลย ชายคนดังกล่าวจึงบอกว่า “เจ้ติดเงินแฟนผม 2,000 บาทใช่มั้ย” จากนั้นก็หันไปคุยกับเจ้าของร้านโดยถามว่า หากเหมารอบนี้เท่าไร เจ้าของร้านบอกว่า 4,000 บาท พร้อมกับย้ำว่า “รอบนี้ให้ตนเองเป็นคนเหมานะ”

น.ส.เต่ากล่าวอีกว่า ผู้ชายบอกว่า หากวงล้อตกที่สีอะไรจะได้ทั้งหมดเลย จากนั้นวงล้อตกที่สีชมพู ชายคนดังกล่าวบอกว่า “ได้ละ 10,000 บาท” จากนั้นเจ้าของร้านได้นับเงินจำนวน 10,000 บาทให้กับผู้ชาย และเจ้าของร้านยังได้นับเงิน 10,000 บาทเพื่อที่จะให้ตนด้วย แต่บอกว่า หากจะเอาเงิน 10,000 บาท ต้องเอาเงิน 4,000 บาทมาแลก

นางเต่ากล่าวว่า จากนั้นผู้ชายที่อ้างว่าเป็นสามีของผู้หญิงที่เอาเงินมายัดใส่มือตน ได้หันมาถามว่า “มีเงินมั้ย” ตนก็บอกว่า “ไม่มี” เขาก็บอกอีกว่า “แล้วที่ติดเงินแฟนผม 2,000 บาท ต้องเอามาใช้ด้วย” ต่อมาแฟนของตนก็เดินเข้ามาพูดว่า “จะติดเงินกันได้อย่าไร ไม่ได้รู้จักกันเลย”

“จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ต่อยแฟนหนูพร้อมกับมีกลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คนเข้ามารุมทำร้ายจนแฟนหนูสลบไป ตัวหนูเองเข้าไปช่วยก็ถูกเหวี่ยงออกมา มีชายคนหนึ่งเห็นว่า ขาของหนูที่เคยประสบอุบัติเหตุต้องเดินผิดปกติ ก็พยายามเข้ามาถีบที่ขา ส่วนน้องชายที่มาด้วยกันมาเห็นเหตุการณ์จึงเข้ามาห้าม ก็ถูกรุมทำร้ายเช่นกันจนคิ้วซ้ายแตก หัวเข่าทั้งสองข้างเป็นแผลถลอกลงไปกองที่พื้น ซึ่งใกล้เคียงก็มี สห.อยู่ก็ไม่เข้าเข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด” น.ส.เต่ากล่าว

น.ส.เต่ากล่าวต่อว่า ร้านค้าที่อยู่ใกล้เคียงก็ไม่กล้าที่จะเข้ามาช่วย ใครเอาโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพก็มีคนบอกว่าห้ามถ่าย ใครถ่ายเป็นเรื่อง มีคนทำท่าทางคล้ายจะชักอาวุธปืนเพื่อข่มขู่ด้วย หลังเกิดเหตุได้พากันไปโรงพักที่อยู่ห่างเพียง 100 เมตร แต่ตำรวจก็ทำได้เพียงลงบันทึกประจำวัน ไม่ได้ไปดำเนินการกับกุมใครทั้งสิ้น

น.ส.เต่ากล่าวด้วยว่า ตนอยากให้ตำรวจจับตัวคนผิดมาลงโทษ งานบุญภายในวัดทำไมตำรวจถึงปล่อยให้มีการละเล่นการพนันในหลายรูปแบบและแก๊งมิจฉาชีพต้มตุ๋นออกมาหลอกลวงและทำร้ายประชาชนอย่างนี้ ทั้งๆ ที่จุดเกิดเหตุกับโรงพักห่างกันแค่โบสถ์กั้นเท่านั้น แต่ตำรวจกลับไม่รู้ไม่เห็น

ด้าน นายไข่ (นามสมมติ) อายุ 40 ปี สามีน.ส.เต่า กล่าวว่า เมื่อตนเห็นแฟนไปยืนดูเกมวงล้อเสี่ยงโชค แต่กลับถูกกลุ่มชายและหญิง กว่า 10 คนรุมล้อมพูดจาข่มขู่ ตนเห็นท่าทางไม่ดีจึงเข้าไปพูดว่า “มีอะไรกันหรือ นี่เมียผมนะ” จากนั้นมีชายคนหนึ่งที่ล็อกคอจากด้านหลังแล้วดึงให้ล้มลงกับพื้น ชาย 10 กว่าคนก็รุมต่อยและกระทืบจนผมสลบไป มาทราบทีหลังว่าน้องชายที่เข้าไปห้ามก็ถูกลูกหลงไปด้วยบาดเจ็บหลายแห่ง ส่วนตนศีรษะและปากบวม

นายไข่กล่าวอีกว่า จากวันที่เกิดเหตุจนถึงวันนี้ยังไม่ทราบตัวคนร้ายเลย มีแต่ตำรวจไม่ตามจับคนก่อเหตุที่ทำร้ายร่างกาย แต่กลับเรียกพวกเราผู้เสียหายไปไกล่เกลี่ยกับเจ้าของร้านเกมวงล้อเสี่ยงโชค โดยเจ้าของร้านจะให้เงินคนละ 5,000 บาท แล้วจบเรื่อง ทำแบบนี้เท่ากับคนที่ทำร้ายร่างกายและเจ้าของร้านเป็นพวกเดียวกัน

“ผมและครอบครัวไม่ยอม อยากให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากเห็นว่าเป็นการฉ้อโกง ลักษณะของการรวมหัวกันเป็นกลุ่มแก๊งมาเฟีย ขณะเกิดเหตุได้มีชายยืนคุมเชิงลักษณะคล้ายมีอาวุธปืนอยู่ที่เอว ตะโกนห้ามคนที่เห็นเหตุการณ์ถ่ายภาพหรือบันทึกภาพใดๆ ทั้งสิ้น ผมเชื่อว่ายังต้องมีอีกหลายคนที่ถูกโกง” นายไข่กล่าว

นายไข่กล่าวต่อว่า วันต่อมาแก๊งต้มตุ๋นก็ยังมาเปิดดำเนินการได้อีกหลายวัน น้องชายได้ไปเรียกตำรวจให้มาจับ เพราะเห็นว่าเป็นกลุ่มที่ทำร้ายตนเอง กำลังต้มตุ๋นประชาชนคนอื่นอยู่ แต่ตำรวจกลับไม่ดำเนินการใดๆ น้องชายทำได้แค่เพียงแอบถ่ายภาพเพื่อยืนยันว่ากลุ่มคนดังกล่าวยังคงเปิดดำเนินการอยู่จริง

นายไข่กล่าด้วยว่า อยากฝากให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ช่วยสั่งการให้ตำรวจ สภ.สวนพริกไทย ทำงานด้วย จะได้ไม่ไปก่อเหตุกับประชาชนคนอื่นๆ อีก เพราะโรงพักอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ถึง 100 เมตร แต่ตำรวจกลับปล่อยให้มีการต้มตุ๋นหลอกลวงประชาชนให้ได้รับความเสียหายทั้งเงินทองร่างกายและจิตใจ เนื่องจากช่วงนี้ภายในจ.ปทุมธานีมีงานวัดประจำปีหลายแห่งที่จัดงานและมีมหกรรมการละเล่นลักษณะแบบนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน