ผู้ว่าฯเชียงใหม่ เผยแจกหน้ากากแล้ว5.7แสนชิ้น สั่งซื้อเพิ่ม4.7แสน พบฝุ่นพิษฟุ้งแม่สาย

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 มี.ค. ที่ศูนย์บูรณาการร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ส่วนแยกที่1 ต.แม่เหียะ ตั้งอยู่ที่คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่16 (เชียงใหม่) และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่

รวมทั้งคณะเดินทางตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าที่เป็นการบูรณาการกำลังร่วมกันกับท้องถิ่น ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 มี.ค. และช่วงเช้าวันนี้มีการประทุขึ้นอีกครั้ง

นายศุภชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลา 20.00 น. เกิดไฟไหม้ป่าในพื้นที่ป่าอุทยานฯ ทางเจ้าหน้าที่ 30 นาย เข้าทำการดับจนแล้วเสร็จ แต่ปรากฎว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. เกิดการประทุซ้ำและต้องทำการดับอีกครั้ง ต่อมาเช้าวันนี้เกิดการประทุอีก ต้องมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปเพิ่มอีก 20 นาย เพื่อสนับสนุน

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า พร้อมทั้งเฝ้าระวังอยู่อย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะปกติ ตลอดจนมีการจัดเฮลิคอปเตอร์ไว้บินลาดตระเวนและบรรทุกน้ำขึ้นบินช่วยดับไฟด้วย ซึ่งยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่เพื่อยับยั้งแก้ไขปัญหาการเผาป่าให้ได้

ที่ผ่านมามีมาตรการเข้มงวดในเรื่องการดำเนินการกับผู้ที่เผาป่า สามารถมาจับกุมดำเนินคดีได้แล้ว 23 ราย อย่างไรก็ตามการดำเนินการเข้มงวด คาดว่าจะไม่ให้มีการเผามากกว่าการจับกุม ขณะที่การแจกหน้ากากอนามัยนั้น ซึ่งทุกอำเภอและท้องถิ่นของจังหวัดเชียงใหม่ มีการแจกหน้ากากอนามัยให้ให้ประชาชนสวมใส่ป้องกันตัวเองในสถานการณ์ที่ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองสูงเกินค่ามาตรฐานจนอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว 4 แสนชิ้น

ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ มีการแจกแล้ว 1.7 แสนชิ้น รวมแจกแล้วทั้งสิ้น 5.7 แสนชิ้น และเวลานี้ทางท้องถิ่นกำลังมีการจักซื้อเพิ่มเติมอีก 4.7 แสนชิ้น เพื่อแจกจ่ายประชาชน และพร้อมจะสั่งซื้อเพิ่มเติมอีกหากไม่เพียงพอ ยืนยันว่าทางจังหวัดเชียงใหม่และทุกภาคส่วนจะดำเนินการมาตรการต่างๆ อย่างเข้มข้นต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์ปัญหาจะคลี่คลาย

ทางด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 8 กำแพงเพชร และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ดำเนินการเพิ่มความชุ่มชื่น และลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 12,000 ลิตร ณ อ่างเก็บน้ำอ่างแก้ว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 8 กำแพงเพชร ยังได้นำรถหุ่นยนต์ดับเพลิงควบคุมระยะไกลฉีดพ่นม่านน้ำสร้างความชุ่มชื่นในอากาศ บริเวณข่วงประตูท่าแพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เวลา 10.00 น.

โดยทางเจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่ากระแสแนวลมกรดที่เข้ามาในวันที่ 28 มีนาคม เขื่อว่าน่าจะเอาฝุ่นออกไป ที่ค่ายกาวิละ เชียงใหม่. ทาง พัน บ.ฉก.(ศบบ.) ควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ ทภ.3 สน. ได้แจ้งมาว่าการปฏิบัติภารกิจ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ พบว่า ค่าฝุ่นละอองส่วนใหญ่ลดลงจากเมื่อวาน เมื่อเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน คุณภาพอากาศมีค่าอยู่ในเกณฑ์ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ – มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสีแดง 11 พื้นที่ (คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ) และพื้นที่สีส้ม 5 พื้นที่ (คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ)

สำหรับค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 66 – 266 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร (มคก./ลบ.ม.) ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม. โดยพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นสูงสุดคือ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และมีดัชนีคุณภาพอากาศสูงสุดในไทย คือ 376 นอกจากนี้พื้นที่ที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน ได้แก่ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด ตาก, ต.ในเวียง อ.เมือง น่าน, ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ น่าน, ต.บ้านต๋อม อ.เมือง พะเยา, ต.พระบาท อ.เมือง ลำปาง, ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ ลำปาง, ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ ลำปาง, ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ ลำปาง, ต.บ้านกลาง อ.เมือง ลำพูน, ต.เวียง อ.เมือง เชียงราย, ต.ช้างเผือก อ.เมือง เชียงใหม่, ต.ศรีภูมิ อ.เมือง เชียงใหม่, ต.สุเทพ อ.เมือง เชียงใหม่, ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม เชียงใหม่, ต.นาจักร อ.เมือง แพร่, ต.จองคำ อ.เมือง แม่ฮ่องสอน

ส่วนค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน หรือ PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 92 – 307 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 120 มคก./ลบ.ม.) คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ พบค่าระหว่าง 66 – 266 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐานที่บริเวณต.แม่ปะ อ.แม่สอด ตาก, ต.ในเวียง อ.เมือง น่าน, ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ น่าน, ต.บ้านต๋อม อ.เมือง พะเยา, ต.พระบาท อ.เมือง ลำปาง, ต.บ้านกลาง อ.เมือง ลำพูน, ต.เวียง อ.เมือง เชียงราย, ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย เชียงราย, ต.ช้างเผือก อ.เมือง เชียงใหม่, ต.ศรีภูมิ อ.เมือง เชียงใหม่, ต.จองคำ อ.เมือง แม่ฮ่องสอน

ทั้งนี้กรมควบคุมมลพิษขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ งดการเผาในที่โล่งเพื่อป้องกันการเพิ่มสูงขึ้นของฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ประชาชนอยู่ในพื้นที่ที่ปริมาณฝุ่นละอองมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขอให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายและการทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก ประชาชนทั่วไปและกลุ่มเสี่ยงควรเฝ้าระวังสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก ใจมีเสียงวี้ด ใจสั่น คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ แน่นหน้าอก ให้รีบพบแพทย์ ผู้มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างน้อย 5 วัน ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์ http://air4thai.pcd.go.th และแอพลิเคชั่น air4thai

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน