พ่อแม่ร่ำไห้รับศพลูกเหยื่อฆ่ายัดถังโบกปูน เผยผลชันสูตรกะโหลกศีรษะยุบ-ถูกรัดคอ เจ้าหน้าที่เก็บดีเอ็นพ่อแม่เพื่อเปรียบเทียบกับศพ รับไม่คิดว่าญาติกันเองแท้ๆ ต้องมาทำแบบนี้

กรณีพบศพนายอัชฌา หรือขิก หนูปทุม อายุ 38 ปี ชาว จ.พัทลุง หลังนายจ้างไปแจ้งความคนหายไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ก่อนพบว่าถูกฆ่าโบกปูนใส่ในถังน้ำมันฝังดินอยู่หลังร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านเกษตรนวมินทร์ (พหลวิว) โดยตำรวจคาดว่า นายประยูน หรือจุ๊บ แก้วพยศ อายุ 48 ปี ผู้ดูแลร้านพหลค้าวัสดุก่อสร้าง และเป็นญาติของนายอัชฌา น่าจะมีส่วนรู้เห็นกับการเสียชีวิตของนายอัชฌา ซึ่งน้องสาวของผู้ตาย ให้การกับตำรวจไว้ว่า ปมการฆาตกรรมอาจเกิดจากปัญหาชู้สาวนั้น

เหยื่อฆ่ายัดถัง / เมื่อวันที่ 28 มี.ค พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 26 มี.ค.เวลา 22.00 น. น.ส.อรอุมา น้องสาวผู้เสียชีวิต เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสอบปากคำเป็นที่เรียบร้อย วันนี้ทางพนักงานสอบสวนเชิญตัวคนงานก่อสร้างของร้านอาหารจุดที่ฝังศพ ที่อ้างว่าถูกนายประยูร หรือจุ๊บ แก้วพยศ ใช้ให้ช่วยยกถังน้ำมันไปฝัง มาสอบปากคำในฐานะพยาน รวมถึงพนักงานของร้านวัสดุก่อสร้างบางราย เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดประกอบสำนวน เตรียมขอศาลออกหมายจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและซ่อนเร้นอำพรางศพ

สำหรับคดีนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่างตำรวจสน.บางเขนเจ้าของพื้นที่พบศพ และตำรวจกองปราบปรามที่ทำด้านสืบสวน แลกเปลี่ยนข้อมูลทั้งสืบสวนและสอบสวนกันอยู่ตลอด ขอให้ฝ่ายผู้เสียหายมั่นใจในกระบวนการสอบสวนของตำรวจ

วันเดียวกันที่ สถาบันนิติเวช รพ.ภูมิพล นายเลี่ยน หนูปทุม พร้อมนางบุญมี หนูปทุม อายุ 60 ปี พ่อและแม่นายอัชฌา พ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยภรรยา ลูกพี่ลูกน้องเดินทางมายังสถาบันนิติเวช เพื่อติดต่อขอรับศพนายอัฌชา ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะนำตัวพ่อไปเก็บดีเอ็นเพื่อเปรียบเทียบกับศพผู้ตายตามขั้นตอน จากนั้นยื่นเอกสารตามขั้นตอนเพื่อขอรับศพ โดยพ่อและแม่เข้ามาดูศพลูกชายก่อนร่ำไห้ เข้ากอดศพลูกชาย

นายเลี่ยน กล่าวภายหลังเข้าดูศพลูกชายว่า เบื้องต้นแพทย์ระบุว่ากะโหลกศีรษะแตกยุบและถูกรัดคอ ซึ่งตรงกับหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ ที่สภาพศพมีสายไฟพันบริเวณรอบลำคอ

ยอมรับว่าตนโกรธและรับไม่ได้ หลังทราบข้อมูลว่า คนก่อเหตุอาจจะเป็นนายประยูน ซึ่งเป็นญาติที่มาชักชวนลูกชายไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพราะเงินเดือนดี ซึ่งคนทางบ้านรู้สึกเอะใจตั้งแต่ติดต่อหานายอัชฌาไม่ได้ นับแต่วันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา เพราะปกตินายอัชฌาจะโทรศัพท์คุยกับลูกชายวัย 18 ปี ทุกวัน ซึ่งในวันที่นายอัชฌาหายตัวไป ลูกชายของนายอัชฌาโทรศัพท์ไปหาพ่อ แต่มีเสียงผู้ชายพูดภาษากลางกลับมาว่า ‘ใคร’ ก่อนจะกดวางสายไป

นายเลี่ยน กล่าวต่อว่า จากนั้นตนพยายามสอบถามไปยังนายประยูนได้คำตอบว่า ลูกชายไม่มาทำงาน 2-3 วันแล้ว จึงขอร้องให้นายประยูนไปแจ้งความ ทำให้ตนสงสัยว่านายประยูนอาจเกี่ยวข้องกับการตายของลูกชาย

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยทราบเลยว่า ลูกชายไปมีเรื่องบาดหมางหรือปัญหาชู้สาวกับใคร โดยภายหลังเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ตนก็ไม่ได้ติดต่อหรือได้รับการติดต่อกลับมาจากทางญาติของนายประยูนแต่อย่างใด ทั้งนี้ หลังจากรับศพนายอัชฌาแล้ว ครอบครัวจะไปเชิญวิญญาณลูกชายที่ลานดินหลังร้านอาหารย่านบางเขน ก่อนนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหารเทา อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง สวดอภิธรรมเป็นเวลา 3 วัน

ด้านลูกพี่ลูกน้องผู้ตาย กล่าวว่า จะนำศพไปบำเพ็ญกุศที่วัดหาดหาร อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง โดยส่วนตัวแล้วจะสนิทกับทางญาติผู้ตายมากกว่า แต่ผู้ตายและผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนก็เป็นญาติกัน แต่ตนก็ไม่ทราบว่ามีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งในเรื่องใด เพราะผู้ตายนิสัยก็เป็นคนเงียบๆ ก็ไม่คิดว่าญาติกันเองแท้ๆ ต้องมาทำถึงขนาดนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน