เขื่อนป่าสักฯ แห้งขอด น้ำเหลือไม่ถึง 30% ติดประกาศหน้าเขื่อน งดทำนาต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำที่ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ล่าสุดสถานการณ์น่าเป็นห่วง น้ำต้นทุนเหลือไม่ถึงร้อยละ 30 ของความจุเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ยังคงปรับลดการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภาพจากมุมสูง จะเห็นสภาพความตื้นเขิน และสันดอนตามแนวเขื่อน

โดยเฉพาะบริเวณประตูระบายน้ำ ทั้ง 7 บาน ด้านท้ายเขื่อน ซึ่งปัจจุบันได้เปิดให้น้ำไหลผ่านเพียงล็กน้อย เพียงบานเดียว เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ด้านท้านน้ำ ทำให้น้ำตื้นเขินเป็นอย่างมาก จนชาวบ้านสามารถเดินลงไป หาหอย หาปู ตามซอกหิน ด้านท้านเขื่อนได้

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นายศุภชัย มโนการ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขณะนี้ (29 มี.ค.62) อยู่ที่ 269.29 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 28.05 จากปริมาณเก็บกักสูงสุด 960 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยไม่มีปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำ ทำให้น้ำต้นทุนในเขื่อนเหลือน้อย และยังคงต้องระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน เพื่อเป็นการรักษาระบบนิเวศ การอุปโภค บริโภค

โดยปัจจุบัน ได้เปิดประตูระบายน้ำเพียงแค่ 1 บาน จากทั้งหมด 7 บาน ระบายน้ำอยู่ที่ 2.16 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน

ซึ่งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้ ขึ้นป้ายข้อความขนาดใหญ่ บริเวณด้านหน้าปากท้างเข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยมีความความว่า “หวั่นปีนี้ ภัยแล้ง รุนแรง ยาวนาน วอนเกษตรกร ไม่ควรเพาะปลูกข้าวต่อเนื่องหลังเก็บเกี่ยว”

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแจ้งให้เกษตกร ลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำในการเพาะปลูกตลอดฤดูกาล ซึ่งอาจทำให้นาข้าวเสียหายได้ ซึ่งเกษตกรควรหันมาปลูกพื้ขนที่ใช้น้ำน้อยแทนเพื่อลดความเสียงพื้นผลท้างการเกษตรได้รับความเสียหาย อีกทั้ง ยังเพื่อเป็นสำรองน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด ไว้ใช้ สำหรับเพื่อการอุปโภคและบริโภค ไปตลอดช่วงฤดูแล้งนี้ อีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน