กับอีกหนึ่งเมนูสำหรับคนรักษ์สุขภาพ คงหนีไม่พ้น “น้ำเต้าหู้” ที่ในแต่ละวันต้องเลือกหาร้านเด่นโดนใจเพื่อให้ตนเองหรือคนที่เรารักนั้นได้รับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเป็นประจำทุกวัน เพราะนอกจากจะอุดมด้วยโปรตีนแล้วนั้น น้ำเต้าหู้ยังคงเป็นเครื่องดื่มเพียบพร้อมทั้งทางด้านสรรพคุณรวมทั้งโภชนาการด้านอาหารที่ครบถ้วน และที่สำคัญราคาไม่แพงอีกด้วย

“น้ำเต้าหู้ เฮียเข่ง” ถ้าเป็นคนขอนแก่นแล้วหล่ะก็ เพียงแค่เอ่ยชื่อเรียกได้ว่าทุกคนต้องร้องอ๋อ เลยทีเดียวเพราะเป็นร้านจำหน่ายน้ำเต้าหู้ที่อยู่คู่กับคนขอนแก่นมานานกว่า 50 ปี เปิดขายตั้งแต่รุ่นพ่อจนมาถึงรุ่นลูกและกำลังที่จะส่งต่อไปยังรุ่นหลาน วันนี้มีการขยายสาขาเพื่อให้บริการกับลูกค้านั้นได้เต็มอิ่มและสามารถที่จะรับประทานน้ำเต้าหู้เพื่อสุขภาพในทุกเช้าและทุกเย็น ทีมข่าวของเราจึงลงพื้นที่เพื่อสังเกตการณ์และลิ้มลองความอร่อยของสุดยอดน้ำเต้าหู้ที่ยังคงครองใจคนขอนแก่นมาแล้วหลายชั่วอายุคนโดยพบว่าปัจจุบัน ร้านน้ำเต้าหู้เฮียเข่งนั้นเปิดจำหน่ายในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 06.30 – 09.30 น. บริเวณภายในตลาดสดเทศบาล 1 ซึ่งในจุดนี้เปิดจำหน่ายทุกวัน และในช่วงเย็น ซึ่งจำหน่ายเฉพาะวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 16.30 – 19.00 น. ริม ถ.กลางเมืองด้านหน้าตลาดโต้รุ่ง ขอนแก่น ซึ่งเมื่อทีมข่าวไปถึงได้รับการต้อนรับ จาก “เฮียเข่ง” หรือนายพรชัย ตรึงจิตพิชญ์ดล อายุ 71 ปี ยืนรอให้การต้อนรับและทักทายกับลูกค้าที่มายืนรอต่อคิวกันเป็นจำนวนมากด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส โดยมีศรีภรรยาคู่ใจ คือนางละออ ตรึงจิตพิชญ์ดล ทำหน้าที่จำหน่ายน้ำเต้าหู้ ให้กับลูกค้าอย่างขะมักเขม้น

นางละออ ตรึงจิตพิชญ์ดล อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 ถ.รื่นจิตร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแกน บอกว่า น้ำเต้าหู้เป็นอาชีพที่อยู่คู่กับครอบครัวของเรามาตั้งแต่รุ่นพ่อ จนถ่ายทอดมายังรุ่นลูก และเตรียมที่จะส่งไปยังรุ่นหลาน แต่ละวันจะทำน้ำเต้าหู้มาจำหน่ายในช่วงเช้าและช่วงเย็น หยุดเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์เท่านั้น ปัจจุบันยอมรับว่าคนขอนแกนนิยมรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้นและน้ำเต้าหู้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทุกคนจะรับประทานกันในทุกเช้าและทุกเย็น ด้วยสูตรพิเศษที่เราได้รับการถ่ายทอดมาจากรุ่นพ่อ คือต้องลงมือทำเองกับมือ เริ่มจากนำถั่วเหลือมาแช่น้ำ 4 ชม. เพื่อคัดเอาเมล็ดที่ลอยขึ้นมาซึ่งคือเมล็ดที่เสียทิ้งไป จากนั้นนำถั่วเหลืองที่แช่น้ำเข้าเครื่องโม่ ซึ่งเรายังคงใช้แบบโบราณ ที่ใช้แบบมือหมุน จนบดละเอียดนำมากรองด้วยผ้าขาวบางจนได้นำถั่วเหลืองดั้งเดิมและนำมาต้มในกระทะขนาดใหญ่แบบโบราณ อีก 1 ชม. ในระยะนี้ต้องคนตลอดให้น้ำกับน้ำนมถั่วเหลืองคลุกเคล้าให้เข้ากัน ในอุณหภูมิที่เหมาะสม โดยในขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ก็จะได้น้ำเต้าหู้ดั้งเดิมไม่มีสิ่งเจือปนกลิ่นหอมน้ำนมถั่วเหลือและมีขาวขุ่นชวนน่ารับประทาน และที่สำคัญคือสูตรของเราต้องใช้เตาถ่านเท่านั้น

“ แต่ละวันเราจะได้น้ำเต้าหู้ประมาณ 65 กก. หรือหากจะนับจำนวนถุงที่จำหน่ายในช่วงเช้าและเย็น น่าจะอยู่ที่ประมาณ 600 – 800 ถุง และเมื่อมาถึงในช่วงของการจำหน่าย เราจะแยกหม้อด้วยคือ หม้อด้านขวาจะเป็นสูตรดั้งเดิม คือไม่ผสมน้ำตาล และ หม้อด้านซ้ายจะผสมน้ำเชื่อม หรือที่เรียกว่าสูตรหวาน แต่ก็หวานไม่มาก และหากลูกค้าต้องการแบบหวานมากเราก็จะเติมน้ำเชื่อมให้ ขณะที่เครื่องเคียง จะใช้อย่างละไม่น้อยกว่าวันละ 2 กก. ประกอบด้วย ลูกเดือยต้มสุก,วุ้น,สาคูและฟักเชื่อม ซึ่งในแต่ละถุงที่สั่งเราก็จะไม่หวงเครื่องด้วย และอีกหนึ่งสูตรเด็ดโดนใจที่เราเชื่อได้ว่ามีเพียงร้านของเราเท่านั้น คือน้ำเต้าหู้ไข่ลวก ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนขอนแก่นอย่างมากและเป็นสูตรพิเศษที่มีส่วนผสมที่เข้ากันได้อย่างลงตัว คือใช้น้ำเต้าหู้แบบดั้งเดิมมาผสมกับไข่ลวกที่เราเตรียมไว้เมนูนี้ถูกใจผู้ใช้แรงงานอย่างมากเลยทีเดียว ทั้งนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ต่างสั่งน้ำเต้าหู้ที่หลากหลาย บางรายสั่งแบบน้ำเต้าหู้ดั้งเดิม ไม่ใส่เครื่อง,บางคนเลือกเครื่องเคียงเฉพาะที่ชิ่นชอบ ,บางคนสั่งเพิ่มหวานเราก็มีน้ำเชื่อมเติมให้,บางคนใส่ใข่และใส่เครื่อง ซึ่งเราก็ทำให้ตามความต้องการของลูกค้าในทุกเมนู ที่สำคัญน้ำเต้าหู้ของเรายิ่งได้รับประทานตอนร้อนๆแล้วยิ่งอร่อยอย่างมากเลยทีเดียว”

คุณป้าละออ บอกต่อว่า ร้านของเราเปิดจำหน่ายต่อจากรุ่นพ่อ คือเริ่มตั้งแต่ปี 2510 มาถึงวันนี้กว่า 50 ปี แล้ว โดยยึดอาชีพขายน้ำเต้าหู้มาโดยตลอดจนส่งลูกเรียนจบปริญญาตรี 4 คน และจะยังคงยึดอาชีพขายน้ำเต้าหู้อย่างนี้ต่อไป ซึ่งขณะนี้เตรียมส่งต่อให้กับรุ่นลูกและรุ่นหลานแล้ว ขณะที่ความประทับใจของลูกค้าที่ยังคงแวะเวียนมาลองลิ้มชิมรมน้ำเต้าหู้ของเราทั้งที่มีแบบลูกค้าขาประจำและลูกค้าที่ชื่นชอบน้ำเต้าหู้ที่หาข้อมูลมาสืบเสาะหารับประทานแล้วนั้น ร้านของเรานั้นใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนที่ต้องลงมือทำเอง ตั้งแต่คัดเลือกเมล็ดถั่วเหลืองจนต้มสุกพร้อมจำหน่าย และที่สำคัญคือทำสด สะอาด และทำจำหน่ายวันต่อวันไม่มีคงเหลือหรือตกค้าง ขณะที่ราคาจำหน่าย ซึ่งยืนราคาจำหน่ายเริ่มจากถุงละ 50 สตางค์ มาจนถึงวันนี้ ราคาถุงละ 6 บาท และยืนราคาจำหน่ายที่ถุงละ 6 บาทมานานกว่า 10 ปีแล้ว เพื่อให้ลูกค้าได้รับประทานเมนูเพื่อสุขภาพ และเพรียบพร้อมด้วนคุณค่าทางอาหารและโภชนาการได้อย่างเต็มอิ่ม และร้านของเราก็ยังคงกำหนดราคาจำหน่ายเพียงเท่านี้ต่อไปคือแบบบรรจุถุงธรรมดาราคาถุงละ 6 บาท ใส่เครื่องถุงละ 10 บาท และหากเพิ่มไข่ลวกก็เพิ่มอีกฟองละ 6 บาท หรือจะนั่งรับประทานที่ร้านซึ่งร้านของเราก็มีโต๊ะให้นั่งรับประทานกันได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามหากท่านใดมาไม่ถูกหรือต้องการที่จะสอบถามทำเลที่ตั้งหรือสอบถามว่าวันนี้เปิดจำหน่ายหรือไม่สามารถโทรศัพท์หาเฮียเข่งได้ที่ หมายเลข 043-224753

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน