“บิ๊กเต่า”เข้มสั่งห้ามเกิดไฟป่าในป่าอนุรักษ์ ป่าสงวน เด้งแน่!!! หากไร้น้ำยาจัดการ

รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรฯ เข้มเหตุป้องกันไฟป่า ระบุท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่จับกุมคนจุดไฟป่า โดยเฉพาะพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และป่าสงวน หากหย่อนประสิทธิภาพจะลงโทษอย่างเฉียบขาด ด้านปลัดทส.เผยเพิ่มเจ้าหน้าที่กว่า 2,000 นาย เฮลิคอปเตอร์ทส. อีก 3 ลำ สนับสนุนการควบคุมป้องกันการเกิดไฟป่าและดับไฟ ระบุนายกฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจ.เชียงใหม่ พรุ่งนี้

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ปัญหาหมอกควันไฟป่าในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมา มีผลการปฏิบัติงานควบคุมได้ดีเป็นที่น่าพอใจ แต่ในปีนี้ มีปัจจัยหลายอย่างทำให้เกิดปัญหาขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา

ทุกหน่วยงานทั้งกระทรวงทรัพยากรฯ ฝ่ายปกครองตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัดจนถึงระดับกำนันผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ต้องช่วยกันสอดส่องว่า นอกจากเกิดไฟป่าเองตามธรรมชาติแล้ว มีผู้ตั้งใจจุดไฟป่าเพื่อทำกิจกรรมหรือวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝงหรือไม่ และจะต้องดำเนินการสืบหาจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด

“ทั้งนี้ ได้กำชับให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมป่าไม้ดำเนินการตรวจสอบเฝ้าระวัง และป้องกันมิให้เกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และป่าสงวนแห่งชาติ หากเจ้าหน้าที่ระดับใดหย่อนประสิทธิภาพไม่สามารถดำเนินการได้ตามนโยบายก็จะพิจารณาลงโทษอย่างเฉียบขาด” รมว.ทส. กล่าวย้ำ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

ด้านนายโสภณ ทองดี ผู้ตรวจราชการทส. ในฐานะโฆษกทส. กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรฯ โดยนายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดทส. พร้อมด้วย นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ และนายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ

ร่วมประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ ร่วมกับพล.อ.ศิวะ ภระมรทัต ผู้บัญชาการกองกำลังจิตอาสา ศอญ. จอส. 904 นายธีรภัทร์ ประยูรสิทธิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรี นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผวจ.เชียงใหม่ นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาคจำนวนมาก ที่จ.เชียงใหม่

นายโสภณ กล่าวอีกว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงห่วงใยปัญหาหมอกควันไฟป่าที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ อีกทั้งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ยกระดับการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า โดยให้กระทรวงทรัพยากรฯ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

เร่งแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ และประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้กับประชาชน และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า

นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดทส. เปิดเผยว่า ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ ได้มีคำสั่งจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้อำนวยการศูนย์ มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในพื้นที่ร่วมปฏิบัติงาน และผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเป็นเลขาผู้ประสานงานประจำศูนย์ เพื่อให้การปฏิบัติงานเกิดความชัดเจน รวดเร็ว และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

“สำหรับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานระดับพื้นที่ภายใต้สังกัดให้การสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์ นักวิชาการ รวมถึง สรรพกำลังในการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ และนายกรัฐมนตรีจะเดินทางลงตรวจเยี่ยมพื้นที่และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดเชียงใหม่ ในวันพรุ่งนี้ (2เม.ย.) ด้วย” นายวิจารย์ กล่าว

นายวิจารย์ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อเตรียมการรองรับการระงับเหตุและการป้องกันปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ ทุกหน่วยงานได้แสดงเจตจำนงในการร่วมมือหยุดการลุกลามของไฟป่า หรือจุดความร้อน (Hot spot) ที่เกิดขึ้นในทุกพื้นที่และป้องกันเหตุไฟป่าที่อาจจะเกิดขึ้นใหม่

สำหรับกระทรวงทรัพยากรฯ ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 2,000 นาย เฮลิคอปเตอร์ดับไฟป่าจากกระทรวงทรัพยากรฯอีก 3 ลำ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 1 ลำ ร่วมสนับสนุนการควบคุมป้องกันการเกิดไฟป่าในพื้นที่รับผิดชอบทั้งเขตอุทยานแห่งชาติ และเขตป่าสงวนอย่างเข้มข้น