นักอนุรักษ์เชียงใหม่ เผยปีนี้หมอกควันไฟป่า ดอยหลวงรุนแรงสุด ชี้ปลูกข้าวโพด ทำฝุ่นพิษพุ่ง

จากสถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่มีความรุนแรงต่อเนื่องมาตลอดเดือน มี.ค.62 จนย่างเข้าสู่เดือน เม.ย.62 รวมทั้งการเกิดไฟไหม้ป่าในพื้นที่ดอยหลวงเชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ที่มีความรุนแรงและเกิดการลุกลามเป็นวงกว้างตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.62

ซึ่งทั้งชาวบ้านอาสาสมัคร รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องระดมความร่วมมือกันดับไฟจนกระทั่งวันที่ 2 เม.ย.62 สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ยังคงต้องมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่ามาจากการเผาโดยฝีมือมนุษย์

วันที่ 4 เม.ย. นายนิคม พุทธา อายุ 57 ปี ประธานกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มแม่น้ำปิง แสดงความเห็นว่า ในฐานะคนที่เกิดและเติบโตที่อำเภอเชียงดาว สถานการณ์ไฟไหม้ป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่เชียงดาว โดยเฉพาะดอยหลวงเชียงดาวปีนี้มีความรุนแรงมากที่สุดที่เคยประสบมาตลอดชีวิต

ทั้งนี้พื้นที่ป่าของดอยหลวงเชียงดาวนั้น มีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์และมีความเฉพาะตัว มีพืชพรรณและสัตว์ป่าหลายชนิดที่พบเพียงแห่งเดียวท่านั้น ซึ่งไฟไหม้ที่เกิดขึ้นนั้น ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศอย่างมาก

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

โดยในส่วนของป่าเต็งรัง และป่าเบญจพรรณ ยังสามารถปรับสภาพกลับคืนมาได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของป่าดิบชื้นและป่าดิบเขา ที่มีความสูง 700-800 เมตร จากระดับน้ำทะเลขึ้นไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบนิเวศเทือกเขาหินปูนที่มีความสูงเกิน 2,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล ที่ถูกไฟไหม้นอกจากสูญเสียพรรณพืชและสัตว์ป่าแล้ว ยังยากที่จะกลับคืนสภาพ

ขณะเดียวกันที่สำคัญอย่างยิ่งยังเป็นการทำให้สูญเสียความสามารถในการกักเก็บน้ำโดยธรรมชาติของป่าที่เป็นป่าต้นน้ำแม่ปิงด้วย ซึ่งหมายความว่าในปีต่อไปมีความเสี่ยงที่จะเกิดดินถล่มหรือน้ำป่าไหลหลากหากฝนตกหนัก และเกิดความแห้งแล้งหากฝนตกน้อย

ประธานกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มแม่น้ำปิง ระบุว่า การเกิดไฟไหม้ป่าและหมอกควันเป็นเรื่องปกติที่พบเห็นมาตั้งแต่เป็นเด็ก อย่างไรก็ตามในอดีตไม่มีความรุนแรงเช่นนี้ โดยสถานการณ์เพิ่งจะมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องในช่วงประมาณ 10-12 ปีที่ผ่านมานี้เอง

ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากการส่งเสริมการปลูกเศรษฐกิจเชิงเดี่ยวโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวโพด ที่มีการขยายพื้นที่ปลูกจากพื้นที่ราบรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ป่า ไม่เว้นแม้พื้นที่ป่าต้นน้ำที่มีความลาดชันสูง รวมทั้งป่าอุทยาน ป่าสงวน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งเห็นว่าน่าจะถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการทบทวนเรื่องนี้และแก้ไขปัญหาโดยเร็ว

ทั้งนี้อยากเรียกร้องไปนายกรัฐมนตรีและผู้บริหารประเทศให้พิจารณาเรื่องนี้ ด้วยการควบคุมพื้นที่และการปลูกข้าวโพด ไม่ปล่อยปละละเลยให้มีการปลูกในพื้นที่ป่าต้นน้ำ ที่นำมาซึ่งความเสียหายที่เกิดกับระบบนิเวศที่ประเมินค่าไม่ได้

อีกทั้งนำไปสู่การก่อปัญหากระทบต่อสุขภาพผู้คนและด้านต่างๆ รวมทั้งเป็นการก่อขัดแย้งระหว่างกันในเรื่องไฟไหม้ป่าด้วย โดยอยากให้มีการสร้างความมือกันจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคประชาชนในการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน

__________________________________________________________

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน