มุ่งหน้ากลับบ้านช่วงสงกรานต์ รถแน่นถนนสาย 304 (กบินทร์บุรี-ปักธงชัย) ยาวเหยียดกว่า 10 กม.
มุ่งหน้ากลับบ้านช่วงสงกรานต์ – เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 12 เม.ย. บรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนาบนถนนสาย 304 ( กบินทร์บุรี – ปักธงชัย) จากนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ในภาคกลาง, ภาคตะวันออก มุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบปริมาณรถหนาแน่นตลอดทั้งคืน
ในพื้นที่ปกติสภาพการจราจรสามารถเคลื่อนที่ได้คล่องตัว พบชะลอตัวปากทางขึ้นเขาพลูหีบ กม.207 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ที่สภาพเส้นทางปรับจากทางปกติ 3 ช่องการจราจรเป็น 2 ช่องจราจรเหมือนคอขวด ส่วนอีก 1 ช่องสำหรับเป็นทางวิ่งรถฉุกเฉิน ก่อนขึ้นภูเขาที่ผ่านระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับอุทยานแห่งชาติทับลาน
โดยรถชะลอตัวเคลื่อนที่ไปได้ช้าๆ จากตีนเขาด้านหน้าต้องต่อแถววิ่งตามต่อกันไปเคลื่อนตัวช้าๆ ยาวเหยียด ถึงหน้าศาลเจ้าพ่อปู่โทน ที่ถนนมีความลาดชันสูง และปริมาณรถสะสมด้านท้าย จากตีนเขาพลูหีบลงมาพื้นราบไกลยาวเหยียดเช่นกันนับ 10 กม. ผ่านหมูบ้านบุพราหมณ์, บ้านวังมืด, บ้านวังหิน, บ้านขุนศรี, ที่ทำการอุทยานแห่งชาติทับลาน, ที่ท่องเที่ยวเวโรน่า, บ้านทับลาน เกือบถึงปากทางออกอุโมงค์ สภาพการจราจรชะลอตัว เคลื่อนที่ได้ทีละน้อย
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ส่วนถนนที่ผ่านบนภูเขาเคลื่อนตัวได้สะดวก ส่วนที่ กม.217 คลองซับบอนที่อยู่ระหว่างก่อสร้างขยายเส้นทางได้เปิดเส้นทางพิเศษแก้ไขปัญหาให้รถขาขึ้น 2 ช่องทาง ขาลง 1 ช่องทาง ทำให้การจราจรจากจุดสกัดบ้านผางามเคลื่อนที่ได้สะดวก
คาดว่าช่วงสายวันนี้จะปริมาณรถจะเบาบาง การจราจรคลี่คลาย และจากที่ปริมาณรถหนาแน่นนี้ส่งผลให้สถานที่ท่องเที่ยวเวโรน่าแอดทับลาน ทั้งอาหาร-เครื่องดิ่ม, น้ำมันยวดยาน, ผลไม้ขายดีสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น อ.นาดีกระเตื้องหลายสิบล้านบาท
ต่อมาเวลา 07.40 น. พ.ต.อ.ฐกร โสภิตกุล ผกก.สภ.วังขอนแดง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า สภาพการจราจรบนถนนสาย 304 (กบินทร์บุรี-ปักธงชัย ) ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ช่วงสายวันนี้ ปริมาณรถ ผ่านระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับอุทยานแห่งชาติทับลาน ปริมาณรถยังคงหนาแน่น โดยก่อนเข้าอุโมงค์เชื่อมผืนป่าดงพญาเย็น กม.192 พบการจราจรชะลอตัว แต่ยังสามารถเคลื่อนที่ได้สะดวกไม่ติดขัด
และเมื่อถึงเวโรนย่าแอดทับลาน จุดพักรถพักคนเดินทาง ได้ชะลอตัวอีกครั้ง เนื่องจากผู้เดินทางพักซื้อของกิน, เครื่องดื่ม, เข้าห้องน้ำ, ซื้อของฝาก และเติมน้ำมันรถก่อนขึ้นภูเขาเข้าเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเมื่อถึงปากทางขึ้นเขาพลูหีบ กม.207 ถนนจากปกติเป็น 3 ช่องจราจรได้ลดลงเหลือเพียง 2 ช่องจราจรทำให้การจราจรชะลอตัวอีกครั้ง จากตีนเขาขึ้นไปถึงหน้าศาลเจ้าพ่อปู่โทน และปากทางขึ้นเขาลงมาด้านล่าง แต่รถยังสามารถเคลื่อนที่ไปได้ไม่ติดขัด
