แม่ร้องลูกตายในคุก แพทย์ชี้ศีรษะถูกกระแทกรุนแรง ลั่นไม่เผาศพ จนกว่าจะจับคนร้ายได้

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. นางสุรินทร์ เกษหอม อายุ 62 ปี ได้ร้องทุกข์ว่า ลูกชายของตน คือ นายพรหมปัญญา เกษหอม อายุ 40 ปี ถูกจับข้อหาเมาแล้วขับ เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ในเขตพื้นที่ สภ.ปรือใหญ่ ต่อมาวันที่ 15 เม.ย. ถูกส่งตัวไปศาลจังหวัดศรีสะเกษ โดยศาลสั่งปรับข้อหาเมาแล้วขับเป็นจำนวนเงิน 6,000 บาท แต่ทางครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่มีเงินเสียค่าปรับ จึงติดคุกแทนค่าปรับ ตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย. ต่อมาเช้าวันที่ 18 เม.ย. นางเทวรรณ์ แสนสะอาด ผู้ใหญ่ บ้านนิคมหนองฉลอง 9 ได้รับแจ้งจาก สภ.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ให้ไปแจ้งญาติด้วยว่า นายพรหมปัญญา เกษหอม เสียชีวิตขณะที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำศรีสะเกษ

นางสุรินทร์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนและญาติได้ไปติดต่อขอรับศพของนายพรหมปัญญา ที่เรือนจำศรีสะเกษ แต่ทางเรือนจำแจ้งว่าให้ญาติไปติดต่อรับศพที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ตนและญาติจึงสอบถามเจ้าหน้าที่เรือนจำถึงสาเหตุการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่บอกว่าผู้ตายช็อกหมดสติ จึงนำส่งโรงพยาบาล

ตนและญาติจึงไปติดต่อขอรับศพที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ เมื่อตนเจอสภาพศพครั้งแรก พบว่าศพลูกชายมีสภาพบอบช้ำทั่วร่างกาย ใบหน้าปูดบวม ปากเจ่อ ศีรษะบวม ญาติติดใจในสาเหตุของการเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ จึงไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อขอความเป็นธรรม และขอให้ตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิต

ด้านนางเทวรรณ์ แสนสะอาด ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 บ้านนิคมหนองฉลอง กล่าวว่า ตนไปให้การช่วยเหลือนางสุรินทร์ เนื่องจากว่า เป็นลูกบ้านและเป็นญาติคนหนึ่ง โดยนำนางสุรินทร์ไปร้องขอให้แพทย์ ร.พ.ศรีสะเกษ นำศพไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิต แพทย์ลงความเห็นว่า ศีรษะได้รับการกระทบกระแทกอย่างรุนแรง และมีรอยคล้ายถูกทำร้าย มีบาดแผลฟกช้ำตามร่างกาย

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นางสุรินทร์ และญาติพี่น้องจึงได้ร้องทุกข์เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิต ถ้าหากไม่ได้รับความเป็นธรรม ญาติพี่น้องทุกคนจะร่วมกับชาวบ้านนิคมหนองฉลอง จะไม่เผาศพของนายพรหมปัญญาและจะแห่ศพไปร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมที่ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตามจับคนร้ายที่ทำร้ายนายพรหมปัญญาจนทำให้เสียชีวิต มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน