ไฟไหม้ศาล‘หลวงปู่คำ’ เผาร่างจระเข้แสนรู้ปิดตำนาน‘เจ้าค้ำคูณ’ผู้กลับชาติมาเกิด

วันที่ 25 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ศาลา‘ศาลหลวงปู่คำ’ ที่ตั้งอยู่บริเวณ สระน้ำหนองแวง หลังวัดดอนไผ่ หมู่ 2 ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ หลังเกิดเหตุรถดับเพลิงอบต.โนนแดง รีบรุดไปฉีดน้ำดับไฟ เมื่อไปถึงพบชาวบ้านพยายามช่วยกันหาน้ำมาสาดดับไฟ แต่เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วเผาศาลหลวงปู่คำวอดหมดเหลือเพียงโครงสร้างและร่างที่ไหม้เกรียมของซากร่างจระเข้หลวงปู่คำ

กำนันตำบลโนนแดง กล่าวว่า โดยปกติแล้ววันนี้จะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ประจำศาลตลอด เพื่อดับธูปและเทียนของผู้ที่มากราบไหว้ แต่วันนี้ผู้ดูแลไม่มีใครอยู่เพราะไปงานศพญาติ ส่วนสาเหตุจะเกิดจากอะไรก็คงไม่อยากไปโทษใครได้ จึงตอบไม่ได้ว่าต้นเพลิงเกิดจากอะไร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้คือ สร้างความเสียใจกับชาวบ้านและผู้ที่เคารพบูชา“หลวงปูคำ” ต่างต้องพากันเศร้าสลดไปทั่วทั้งอำเภอบ้านเขว้ากันเป็นจำนวนมาก

ขณะที่พระครูจันทวราพร (หลวงปู่ยา) เจ้าคณะตำบลเขต 2 เจ้าอาวาสวัดดอนไผ่ ได้เตรียมเรียกประชุมผู้นำหมู่บ้าน กรรมการวัด และชาวบ้าน เพื่อเตรียมเรื่องจัดงานเผาร่างจระเข้หลวงปู่คำ ที่ถูกไหม้ร่างเก็บเสียหายไหม้เกรียมไปทั้งหมดเพื่อที่จะเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้ไปเกิดในภพภูมิใหม่ที่ดีต่อไป

นอกจากนั้นชาวจ.ชัยภูมิ ที่ทราบข่าวต่างพากันเสียใจ เนื่องจากมีความศรัทธาหลวงปู่คำ ซึ่งมีเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์ของจระเข้แสนรู้ของหลวงปู่คำ ที่ยังมีตำนานเรื่องเล่ามายาวนานมาแต่โบราณ สำหรับจระเข้หลวงปู่คำตัวนี้ ชาวบ้านจะเรียกชื่อเจ้าค้ำคูณ ซึ่งนับถือมากว่า 70 ปี หลังจากหลวงปู่คำ เกจิชื่อดังแห่ง อ.บ้านเขว้า เจ้าอาวาสวัดดอนไผ่ มรณภาพไปเมื่อหลายสิบปีก่อน

เมื่อครั้งหลวงปู่คำยังมีชีวิตอยู่ ได้ไปเห็นคนนำจระเข้ไปทำไม่ดี จึงขอซื้อจระเข้ทั้งหมดเพื่อไถ่ชีวิตมาไว้กว่า 10 ตัว แล้วนำมาปล่อยเลี้ยงไว้ที่สระหลังวัดดอนไผ่ในเนื้อที่กว่า 40 ไร่ แต่จระเข้ที่ท่านเลี้ยงไว้หายไปในช่วงน้ำหลากทุกปี จนกระทั่งมีชาวบ้านคนหนึ่งไปพบจระเข้ในที่นาของตน แล้วจับมาคืนหลวงปู่คำได้เพียง 1 ตัว หลวงปู่คำจึงจับจระเข้ตัวนี้ขึ้นมาทำพิธี “ตัดหาง” เพื่อไม่ให้หลบหนีในช่วงเวลาน้ำหลาก และไม่สามารถไปทำอันตรายต่อคนที่พบเห็นได้อีกต่อไป

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

หลวงปู่คำได้นำหางจระเข้ไปฝังไว้ที่บันไดใต้กุฏิของท่าน พร้อมทั้งลงอาคมไว้ไม่ให้จระเข้หนีไปไหนอีก และแม้ท่านจะมรณภาพไปกว่า 70 ปีมาแล้ว แต่จระเข้ตัวนี้ก็ยังอยู่ในสระหลังวัดมาต่อเนื่อง จนกระทั่งเมื่อปี 2552 จ.ชัยภูมิ ได้เข้ามาช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านการเปิดให้ชมจระเข้แสนรู้ของหลวงปู่คำ คนที่มาเห็นต่างเชื่อว่ามีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เนื่องจากจระเข้ไม่ทำร้ายคน และจะออกมาเดินภายในวัดอ้าปากนอนเล่นตามต้นไม้ ถนนในหมู่บ้าน ชาวบ้านก็อยู่ร่วมกันมากับจระเข้ตัวนี้ ใครที่ลงไปเล่นน้ำในสระหลังวัดหรือมีคนจมน้ำจระเข้ตัวนี้ก็ยังช่วยพาขึ้นฝังรอดชีวิตมาแล้วหลายราย จนชาวบ้านให้ความเคารพนับถือเพราะเป็นจระเข้หลวงปู่คำมาตลอด

จนเมื่อปี 2555 จระเข้ตัวนี้ได้ตายลงอย่างสงบตามอายุไข แต่ซากไม่เนาเปื่อย วัดดอนไผ่และชาวบ้านจึงช่วยกันสร้างศาลาศาลแล้วนำร่างมาเก็บไว้เพื่อให้คนที่ศรัทธาได้มาวัดแล้วแวะไปสักการะบูชาขอพรมาจนปัจจุบัน หลังเกิดเหตุไฟไหม้ชาวบ้านชื่อว่าเป็นการปิดตำนานจระเข้แสนรู้ของหลวงปู่คำ และจระเข้แสนรู้ตัวนี้ได้หมดทุกข์หมดโศกและได้กลับไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดีขึ้น โดยวัดร่วมกับชาวบ้านโนนแดง เตรียมสวดพระอภิธรรม 3 คืน เพื่อส่งดวงวิญญาณไปสู่ที่สุคติต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน