ลุงป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย วอนตร.ปล่อยตัวหลานชายที่โดนจับข้อหาครอบครอง กัญชา หลังสั่งให้หลานปลูกไว้ 40 ต้น เพื่อใช้รักษาอาการป่วยของตนเอง
กัญชา / เมื่อวันที่ 26 เม.ย. นายโสภา ปาคำ ผู้ป่วยโรคมะเร็งถุงน้ำดีตับ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 3 ต.ร่องฟอง อ.เมือง จ.แพร่ เปิดเผยว่า หลานชายของตนชื่อ นายพลกฤษณ์ คนชม อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 7 บ้านทุ่งน้ำใส ต.เหมืองหม้อ อ.เมือง จ.แพร่ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดีข้อหาผลิตกัญชาและมีกัญชาไว้ในครอบครองจำนวน 40 ต้น มีขนาดความสูง 6-12 เซนติเมตร คละกัน ปลูกอยู่ในถุงดำ
ตำรวจชุดสืบสวนปราบปราม สภ.เมืองแพร่ นำหมายเข้าค้นบ้านนายพลกฤษณ์ เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ จึงคาดคั้นนายพลกฤษณ์แล้วให้พาไปที่ปลูกกัญชาในสวนผลไม้ห่างบ้านออกไป หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมทั้งยึดต้นกัญชาดังกล่าว นำส่ง ร.ต.อ.สามารถ วังกาษร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองแพร่ พนักงานสอบสวนเวร เพื่อดำเนินคดีกับนายพลกฤษณ์
นายโสภา กล่าวต่อว่า กัญชาที่มีอยู่ 40 ต้นนั้น เป็นของตน เนื่องจากตนป่วยเป็นมะเร็งถุงน้ำดีและตับระยะสุดท้าย แพทย์จากโรงพยาบาลลำปางตรวจพบว่าอยู่ในระยะ 4 เมื่อปี 2561 นำเข้าฉายแสงคลีโมหลายรอบ เพื่อฆ่าเซลมะเร็ง แต่ปรากฏว่าร่างกายทรุดหนัก ผมร่วง มีอาการบวม
ต่อมาลองนำกัญชาแห้งมาต้มน้ำร้อน ดื่มทุกวันวันละ 2 ครั้ง เช้าเย็นครั้งละ 1 แก้ว แล้วปรากฏว่าอาการดีขึ้น อาการบวมหายไป สุขภาพแข็งแรงขึ้น 1 ปีที่ผ่านมา อาการป่วยทุเลาอย่างเห็นได้ชัด แต่กัญชาหาซื้อยากและผิดกฎหมาย รวมทั้งมีราคาสูงมาก เมื่อทราบข่าวว่าทางราชการปลดล็อคกัญชาออกจากยาเสพติด จึงไปติดต่อที่สาธารณสุขเมื่อต้นเดือนเม.ย. เพื่อขออนุญาตใช้กัญชาเพื่อรักษาโรค แต่ทางสาธารณสุขจังหวัดแพร่ระบุว่ายังไม่มีมาตรการอนุญาต
“ปัญหาดังกล่าวทำให้ตัดสินใจว่าจะต้องปลูกกัญชาไว้ใช้เอง โดยให้หลานคือนายพลกฤษณ์นำเมล็ดกัญชาไปทดลองปลูกดู ปรากฏว่าได้ผล มีกล้ากัญชาที่เจริญเติบโตจำนวน 40 ต้น รอวันที่จะนำใบมาใช้เพื่อบำบัดโรคหรือการเข้าถึงยาโดยไม่ต้องซื้อ เพราะก็ไม่มีรายได้ เป็นผู้ป่วยสูงอายุ จึงขอร้องหลานให้ไปปลูก แต่หลานกลับมาถูกจับ ขณะนี้ตำรวจสภ.เมืองแพร่ ยังไม่ให้ประกันตัว จึงอยากวิงวอนขอให้ทางการเห็นใจผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ไม่มีทางออก กัญชาทำให้สุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับทางการเปิดให้ใช้เป็นยาได้ จึงขอวิงวอนให้ปล่อยตัวหลานชาย ถ้าจะเอาผิดมาเอาผมไปดำเนินคดีแทนก็ได้ เพราะกัญชาเหล่านั้นเป็นของผม” นายโสภา กล่าว
ด้าน นายพิทักษ์ชัย รักสุข กลุ่มตัวแทนภาคประชาสังคมใน ต.ร่องฟอง กล่าวว่า เห็นแล้วอนาถใจกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีของลุงโสภาเป็นผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายที่ฟื้นตัวได้ด้วยกัญชา และมีทางเดียวที่จะรักษาด้วยกัญชาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ก็คือการปลูกใช้เอง
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ในขณะที่ทางรัฐบาลประกาศว่าปลดล็อคกัญชาเพื่อการแพทย์แล้ว พรรคการเมืองหลายพรรคก็ออกมาส่งเสริม แต่กลับถูกจับดำเนินคดี อยากขอความเป็นธรรมไปยังหน่วยงานราชการรวมถึง นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โปรดเห็นใจคนจน ที่จะหาทางเข้าถึงยาเพื่อชีวิตของชาวบ้านตาดำๆ ขณะนี้การขอประกันตัวยากลำบากมาก ตำรวจมองว่าผู้ต้องหาเป็นคนร้าย นักค้ายาเสพติดร้ายแรง จึงประกันตัวไม่ได้
