ตร.อุดรฯ จับหนุ่มหนองคาย พร้อมญาติค้ายาบ้า ค้นบ้านเจอทั้งยา-ปืน-กระสุนอื้อ
จับหนุ่มหนองคาย / เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ ที่ว่าการอำเภอเพ็ญ จ.อุดรธานี นายพัสกร ธนแสนไทย ปลัดอาวุโส อ.เพ็ญ พร้อมด้วย พ.ต.อ.กีรติกร กลัดกันแสง ผกก.สภ.เพ็ญ
พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เพ็ญ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายสายชล มีธรรม อายุ 28 ปี ชาวต.โพนสว่าง อ.เมือง จ.หนองคาย และนายนายศิริวัฒน์ สิงห์ดี อายุ 23 ปี ชาวต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย
พร้อมของกลางยาบ้า 2,044 เม็ด , ยาไอซ์ 2 ถุง รวมน้ำหนัก 2.80 กรัม , อุปกรณ์การเสพยาไอซ์ 6 อัน , อาวุธปืนขนาด 11 ม.ม. 1กระบอก , อาวุธปืนขนาด .38 2 กระบอก , อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ทำการดัดแปลง 3 กระบอก , กระสุนลูกซองขนาด เบอร์ 12 จำนวน 28 นัด ,
กระสุนปืนขนาด 11 ม.ม. 32 นัด ,กระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. 29 นัด , ปลอกกระสุนปืนขนาด .38 30 นัด , โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง , แท็บเล็ต 1 เครื่อง เงินสด 9,320 บาท , สมุดบัญชีธนาคาร มียอดเงิน 10,000 บาทและบัตรเอทีเอ็ม 3 ใบ
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
นายพัสกรเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้รับทราบว่าจะมีวัยรุ่นที่มักจะนำอาวุธปืนมายิงเล่น ที่หน้าบ้านเลขที่ 19 หมู่ 13 บ้านนิคม ต.บ้านธาตุ บ่อยครั้ง หลังจากนั้นจึงประสาน ไปยัง สภ.เพ็ญ แล้วนำกำลังจากฝ่ายปกครองร่วมกับตำรวจ สภ.เพ็ญไปทำการตรวจสอบ
ก็พบว่าบ้านดังกล่าวเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบนายสายชล เจ้าของบ้านและนายศิริวัฒน์ ซึ่งเป็นญาติรุ่นน้องอยู่ในบ้าน ก่อนที่จะพาไปตรวจค้นพบยาบ้าและอาวุธปืน พร้อมกระสุนจำนวนมาก จึงได้ตรวจยึดแล้วควบคุมตัวมาที่ว่าการอำเภอเพ็ญ
จากการสอบสวนนายสายชล ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยถูกจับกุมในคดียาบ้า 50 เม็ด ติดคุก 2 ปี 9 เดือน พ้นโทษออกมา เมื่อปี 2559 ขณะอยู่ในคุกได้รู้จักชาวลาว และเมื่อพ้นโทษออกมาก็ได้ติดต่อซื้อยาบ้ากับท้าวไชย ชาวลาว
ก็จะให้คนนำยาบ้ามาส่งให้ตามหลักกิโลเมตร หรือหลังป้ายหมู่บ้าน ริมถนนมิตรภาพ อุดร-หนองคาย จำนวน 1 มัด (10 ถุง ยาบ้า 2,000 เม็ด) ในราคา 1 แสนบาท แล้วนำมาจำหน่ายต่อในราคาเม็ดละ 100 บาท ได้ทำมาแล้ว 5 ครั้ง ล่าสุดเป็นครั้งที่ 6 ยาบ้า 2 มัด (20 ถุง ยาบ้า 4,000 เม็ด) โดยได้นำไปขายแล้ว 10 ถุง
นายสายชลให้การต่อไปว่า ส่วนอาวุธปืน ได้ซื้อมาจากคนในพื้นที่ แต่กระสุนปืน และอุปกรณ์การเสพยาไอซ์ สั่งซื้อผ่านสื่อออนไลน์ โดยตนเองเป็นคนชอบอาวุธปืนเป็นการส่วนตัว จึงได้ทำการสะลมปืนและกระสุนปืนเอาไว้
ก่อนหน้านี้เมื่อไม่กี่วัน ก็ถูกตำรวจหนองคาย จับกุมในคดีอาวุธปืน พึ่งประกันตัวออกมา ส่วนนายศิริวัฒน์ญาติรุ่นน้องนั้น จะแวะเวียนมาหา เพื่อขอเสพยาบ้า โดยทุกวันตนจะเสพยาบ้าวันละ 3 เม็ด และยาไอซ์ด้วย หรือบางทีจะแบ่งขายยาไอซ์ ให้กับลูกค้า ในราคา จีละ 1,500 บาท
หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ทั้งสองคน มียาเสพติด ประเภท 1 (ยาบ้า และไอซ์) มีไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกัน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุน มีไว้ในครองครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งทางตำรวจจะทำการขยายผลต่อไป
