เจอตัวแล้ว! หนุ่มถอนดอกไม้ทะเล โชว์นักท่องเที่ยว เผยเหตุที่ต้องทำ ทช.แจ้งความเอาผิด

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 เม.ย. ที่สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เดินทางพร้อมคณะติดตามความคืบหน้ากรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอในกลุ่มนักดำน้ำและโลกออนไลน์ ว่ามีชายไทยหยิบดอกไม้ทะเลบริเวณหน้าเกาะยอ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดไม่มีกระดูกสันหลัง ขึ้นมาโชว์นักท่องเที่ยวพร้อมปลาการ์ตูน จนเกิดกระแสจากสังคมว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม

พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้ นายวุฒิพงษ์ วงศ์อินทร์ ผอ.ส่วนส่งเสริมการมีส่วนร่วม สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 2 ชลบุรี และนิติกร แจ้งความร้องทุกษ์กล่าวโทษ ความผิดมาตรา 4 และ 16 บทลงโทษในมาตรา47 ตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 กรณีดำน้ำจับประการังประเภทดอกไม้ทะเล ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวนและการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดละเมิดเกี่ยวกับทรัพยากรทางทะเล ตามพรบ.ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ.2558 แก่ ร.ต.อ.ทรงศักดิ์ คำกอง รองสารวัตรสอบสวนสภ.สัตหีบ ดำเนินคดีตามขั้นตอนซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ต่อมานายเอกวัฒน์ มีเต็ม อายุ 31 ปี ชายในคลิป เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมกล่าวว่า ทำงานบริษัทเอกชน โดยวันหยุดมักจะชอบพายเรือออกไปตกปลากับเพื่อน ต่อมาได้รับการประสานจากลูกพี่ลูกน้องที่กรุงเทพว่าเพื่อนที่เรียนด้วยกันที่ประเทศจีนและเพื่อนชาวจีนจำนวน 5 คน จะมาเที่ยวที่สัตหีบจึงนัดแนะกันให้ไปเจอที่ ชายทะเล อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในตอนเช้า

นายเอกวัฒน์ กล่าวต่อว่า จากนั้นก็พากันขึ้นเรือยนต์ขนาด 17 ฟุต ขนาด 90 ซีซี ออกไปตกปลาหน้าเกาะหมู่แต่ว่าลมแรง จึงออกเรือไปยังเกาะยอซึ่งห่างกันประมาณ 50 เมตร และให้เพื่อนๆชาวจีน ลงดำน้ำในระดับความลึกเมตรครึ่ง ขณะนั้นพบเห็นดอกไม้ทะเลจำนวน 2 ต้น อยู่ในน้ำใกล้ชายฝั่ง ซึ่งคิดว่าหากน้ำลงดอกไม้อาจตายได้จึงรีบหยิบขึ้นมาเพื่อจะไปว่างลงในน้ำลึกแต่ในดอกไม้มีปลาการ์ตูนพักอาศัยกันจึงจับแยกใส่กระชอนก่อนนำไปปล่อย

“ไม่มีเจตนาทำลายธรรมชาติแต่เป็นการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการเพราะกลัวดอกไม้ทะเลจะตาย แต่เพื่อนก็ถ่ายวิดีโอแล้วนำไปลงคลิปจนเกิดเรื่องขึ้น ส่วนตัวแล้วไม่ได้ทำงานเป็นไกค์หรือนำเที่ยวเพียงมาดูแลเพื่อนและไม่ได้เก็บเงินแต่อย่างใด แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นก็รู้สึกตกใจและไม่ได้ไม่คิดหลบหนี ซึ่งขอยอมรับความผิดทุกกรณี” นายเอกวัฒน์ กล่าว

ขณะที่ พ.ต.ท.ปินะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ระบุว่า ที่มาวันนี้เพื่อต้องการตรวจสอบว่าเป็นการกระทำผิดโดยเจตนาที่เข้าข่าย พรบ.ธุรกิจนำเที่ยวหรือไม่แต่จากการสอบปากคำจากพยานหลักฐาน ดูแล้วไม่น่าจะใช่แต่ก็จะขยายผลการสอบสวนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการสอบสวนทางเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังเกาะยอ เพื่อดูสภาพสิ่งแวดล้อมทางทะเลซึ่งพบว่ายังมีความสมบูรณ์ดี เนื่องจากพื้นที่บนเกาะ อยู่ในการดูแลของกองทัพเรือ แต่ในน้ำทะเลอยู่ในความดูแล ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เมื่อเกิดเหตุทางกรมฯ ต้องเข้ามาดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับคนอื่น และจะมีการประชุมร่วมกับกับกองทัพเรือและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องออกมาตการ การดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเล เพื่อป้องเหตุการณ์แบบนี้ที่จะเกิดขึ้นต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน