ชาวบ้านสุดทน! ขายบ้านหนี นายทุนเลี้ยงนกนางแอ่น กว่า 100 ตึก เสียงดัง-เหม็น

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. นายอำนวย ตระกูลศุภชัย นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่2(ศรีราชา) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายไชยวัฒน์ สวัสดี ผอ.กองช่างเทศบาลตำบลเมืองแกลง จ.ระยอง พร้อมด้วยนายชัยรัตน์ วีระปัญญาภรณ์ ปลัดอำเภอแกลง น.ส.สายจิตร์ สุขศรี หน.กลุ่มงานสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม จ.ระยอง เดินทางมายังบริเวณตลาดภิบาลพัฒนา ต.ทางเกวียน เทศบาลตำบลเมืองแกลง อ.แกลง จ.ระยอง

หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านและพ่อค้าแม่ค้าที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว ว่าได้รับความเดือดร้อนจากนายทุนที่เข้ามาต่อเติมอาคารเลี้ยงนกนางแอ่นในอาคารภายในตลาดภิบาลญาติ 100 กว่าอาคาร ทั้งเสียงนกตลอด 24 ชั่วโมง กลิ่นเหม็นจากมูลนก จนบางรายต้องย้ายหนีเพราะป่วยเป็นโรคภูมิแพ้

โดยบริเวณดังกล่าวซึ่งเป็นโครงการตลาดภิบาลญาติ ที่มีอาคารพานิชย์รวมกว่า 300 อาคาร เข้าไปตรวจสอบพบว่า มีเสียงนกนางแอ่นดังไปทั่วบริเวณ อาคารส่วนใหญ่ไม่มีคนอยู่อาศัยกว่า 100 อาคาร มีการต่อเติมจากเดิมที่มีความสูง 3 ชั้น ขึ้นไปอีก 3-5 ชั้น มีการเจาะช่องและท่อระบายอากาศโดยปิดทางเข้าออกมิดชิด เพื่อใช้เป็นที่อยู่ของนกนางแอ่น

นายสนิท คุ้มหอม อายุ 56 ปี กล่าวว่า ตนเป็นผู้ที่ปิดป้ายประกาศ “ขายบ้านด่วน 18 ล้าน เพราะไข้หวัดนกระบาดใหญ่ นายอำเภอช่วยซื้อหน่อย และผู้ใหญ่ที่อยู่ในตลาดช่วยซื้อหน่อยต้องการขาย หนีหวัดนก” เพราะเดือดร้อนจากนายทุนที่เลี้ยงนกในอาคารพานิชย์รอบๆบ้านของตนที่เปิดร้านขายไก่สด ปัจจุบันขายแทบไม่ได้เลย เพราะตลาดสดย้ายออกไป เพราะใช้พื้นที่ตลาดเก่าเป็นที่เลี้ยงนกซึ่งกำลังปรับปรุงเป็นที่เลี้ยงนกอยู่

นายสนิท กล่าวต่อว่า สำหรับตึกที่เลี้ยงนกนางแอ่นมีกว่าร้อยอาคาร เดือดร้อนมากกับเสียงนกร้องทั้งวันทั้งคืนกลิ่นเหม็นของมูลนก เคยร้องเรียนไปทุกหน่วยงาน รวมถึงการต่อเติมอาคารที่ไม่ได้มาตรฐาน ร้องมาเป็นสิบปี ก็ยังไม่เคยมีการตรวจสอบ ปัจจุบันชาวบ้านที่อยู่อาศัย ต่างก็ขายอาคารไปเกือบหมด เพราะอยู่อาศัยไม่ได้ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กอ่อนจะมีอาการภูมิแพ้ นอกจากนี้ยังมีนายทุนต่างชาติเข้ามาซื้ออาคารในราคาที่สูง ผ่านนอมินีคนไทย ในราคาเป็นสิบล้านบาทต่อหลัง จึงต้องการให้มีการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา เพราะไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว โดยเฉพาะการต่อเติมอาคารสูงจากเดิมหลายชั้นหวั่นจะพังลงมา

ด้าน น.ส.ณัชฏาภรณ์ วงษ์ศรี อายุ 33 ปี กล่าวว่า ปัจจุบันอาศัยอยู่ในอาคารพานิชย์ ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เพราะตนมีลูกอ่อนวัย 3 เดือน ทุกข์ทรมานมาก เพราะเด็กอ่อนจะมีอาการภูมิแพ้จากมูลนกนางแอ่น ป่วยเรื้อรัง และยังมีเสียงนกที่ทางผู้เลี้ยงเปิดเสียงออกลำโพงเพื่อเรียกนกเข้ามาตลอดเวลา จนทำให้ลูกงอแงทั้งวันทั้งคืน ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไม่มีเงินไปซื้อที่อยู่ใหม่ จึงจำใจต้องทนรับกรรม วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบช่วยเหลือด้วย

นายไชยวัฒน์ สวัสดี ผอ.กองช่าง เทศบาลตำบลทางเกวียน กล่าวว่า การก่อสร้างต่อเติมอาคารยังไม่มีการขออนุญาต ส่วนผิดหรือไม่ก็ต้องตรวจสอบอีกครั้ง

ด้านนายอำนวย ตระกูลศุภชัย นักวิชาการป่าไม้ฯ กล่าวว่า การตรวจสอบเบื้องต้น พบมีการสร้างอาคารเพื่อรองรับการอยู่อาศัยของนกนางแอ่นจริง ซึ่งกฎหมายระบุไว้ว่า หากมีการกักขังนกโดยไม่ให้เข้าออก ก็ถือว่ามีความผิด เพราะนกนางแอ่นเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง แต่หากนกเข้ามาอยู่เองตามธรรมชาติโดยไม่มีการกักขังก็ถือว่าไม่ผิด ต้องเข้าไปตรวจสอบด้านในเพื่อตรวจสอบว่าภายในมีการกักขังหรือไม่

นายอำนวย กล่าวต่อว่า หากพบรังนกและมีการเก็บรังเพื่อประโยชน์ทางการค้าก็ถือว่าผิด แต่ต้องขออนุญาตทางเจ้าของอาคารก่อน ส่วนใหญ่ไม่อยู่ เท่าที่ตรวจสอบด้านนอกอาคารที่ปรับปรุงต่อเติม มีการเปิดช่องทางเข้าออกให้นกนางแอ่นเข้าออก ก็ไม่เข้าข่ายกักขัง ส่วนการต่อเติมอาคารก็ต้องเป็นหน้าที่ของเทศบาลตำบลเมืองแกลง และเรื่องของสุขอนามัยด้วย เบื้องต้นเตรียมหารือเพื่อหาข้อยุติและเข้าไปตรวจสอบภายในอาคารทั้งหมด

ด้าน น.ส.สมจิตร์ สุขศรี หน.กลุ่มงานอนามัยและสิ่งแวดล้อมอาชีวอนามัย สาธารณะสุขจังหวัดระยอง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังตรวจสอบ เปิดเผยว่า มีเพียงมูลนกตกมาที่พื้นจำนวนมาก รวมถึงเสียงนกที่ดังซึ่งจะมีการนำเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น จากนกนางแอ่นที่อยู่ภายในอาคารจึงจะสรุปได้ว่ามีผลกระทบอะไรบ้าง

ต่อมาทุกภาคส่วนได้เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอแกลง ระยอง เพื่อลงบันทึกไว้ และ เตรียมประสานเจ้าของอาคารทั้งหมดเพื่อเจ้าตรวจสอบร่วมกันอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบว่ามีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ หากผิดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน