พายุฤดูร้อนถล่มหลายจังหวัด ที่ชัยภูมิซัดต้นไม้ล้ม ทัศนวิสัยไม่ดี ส่งผลเกิดอุบัติเหตุปิกอัพชนประสานงาสิบล้อ ตาย 3 ศพพ่อแม่ลูก ส่วนโคราชบ้านเรือนเสียหายหลายสิบหลัง ไฟฟ้าดับ ขณะที่มหาสารคาม พายุรุนแรงซัดศาลาการเปรียญพังครืนทั้งหลัง พระบาดเจ็บ ด้านบุรีรัมย์มีเหตุรถตกน้ำ คนขับหนีรอดออกมาได้หวุดหวิด แพร่มีลูกเห็บด้วย เสียหาย 17 หลัง อุทัยธานีก็โดน บ้าน 30 หลังพัง


เมื่อวันที่ 10 มี.ค. เกิดเหตุการณ์พายุฤดูร้อนพัดอย่างรุนแรงในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับรถ บ้านเรือนประชาชน และส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิต โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 9 มี.ค. ร.ต.ท.กานต์ธีรา ชาญพนา และ ร.ต.ท. สุเมธ เสนากร รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งเหตุเกิดพายุฤดูร้อน และฝนอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักชนประสานงารถบรรทุกสิบล้อ และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ติดอยู่ในซากรถที่ถนนสาย 201 หลัก ก.ม.ที่ 113-114 ต.หนองนาแซง อ.เมืองชัยภูมิ
จากนั้นจึงนำกำลังรุดไปยังที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อมิตซูมิชิ รุ่นไทรทัน สีดำ ทะเบียน ฒฒ 6270 กทม. ชนอัดก๊อบปี้กับรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 79-9972 กทม. บรรทุกถังคลอรีน ในรถกระบะมีผู้เสียชีวิต 3 ศพเป็นพ่อแม่ลูกกัน ทราบชื่อ ด.ต.บุญมา ลีลาเมือง อายุ 40 ปี นางสาวิตรี ลีลาเมือง อายุ 35 ปี และ ด.ช.ญาณวุฒิ ลีลาเมือง อายุ 13 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 12 ต.แก้งสนามนาง อ.แก้งสนามนาง จ.นครราชสีมา
ส่วนคนขับรถบรรทุกได้รับบาดเจ็บจากเศษกระจกกระเด็นเข้าตา ทราบชื่อนายจักรพันธ์ ไทยเจริญ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 8 ต.หนองไม้กอง อ.ไทรงาม จ.กำแพง เพชร จึงรีบนำส่งร.พ.ชัยภูมิ และยังไม่สามารถให้การได้ สอบสวนสาเหตุในเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากพายุที่พัดอย่างรุนแรง ต้นไม้ล้ม ทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี ส่งผลให้รถเสียหลักชนประสานงากัน
ขณะเดียวกัน เกิดพายุฤดูร้อนซัดกระหน่ำในหลายจังหวัด โดยที่ จ.นครราชสีมา นาย สุเทพ รื่นถลิว หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่าเกิดเหตุพายุฤดูร้อนเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 9 มี.ค. พื้นที่หมู่ 1, 6 และ 9 ต.สระว่านพระยา อ.ครบุรี บ้านเรือนเสียหาย 28 หลัง พืชผลทางการเกษตร 100 ไร่ นอกจากนี้ ที่บ้านดอนด่านใน ต.ด่านใน อ.ด่านขุนทด เสาไฟฟ้าแรงสูง 15 ต้น ล้มทับผิวจราจรหลักก.ม.ที่ 18-20 ถนนสายขามทะเลสอ-หนองสรวง รถยนต์ 2 คัน และรถจักรยานยนต์ 3 คัน เสียหาย ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง พื้นที่หมู่ 8, 9, 12 และ 19 ต.โนนรัง อ.ชุมพวง บ้านเสียหาย 22 หลัง และหมู่ 1 และ 4 ต.ท่าลาด อ.ชุมพวง บ้านเสียหาย 4 หลัง
ขณะที่ จ.มหาสารคาม เกิดพายุฤดูร้อนมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรง แรงลมพัดศาลาการเปรียญวัดป่าบุพนิมิต บ้านหนองหิน หมู่ 4 ต.โคกก่อ อ.เมืองมหาสารคาม พังถล่มลงมาทั้งหลัง โดยพระอธิการปัญญา ทัตจิตโต เจ้าอาวาสวัด กล่าวว่าเมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 มี.ค. เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และลมหมุนพัด ภาคอีสานเรียกว่า ลมหัวกุด ซัดศาลาการเปรียญที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างพังลงมาทั้งหลัง ศาลาการเปรียญสร้างมาตั้งแต่ปี 2558 ใช้เงินไปแล้วกว่า 5 ล้านบาท ทางวัดก่อสร้างเองโดยจ้าง ช่างจ่ายเงินเป็นงวด หากเสร็จสมบูรณ์คาดว่าใช้เงินทั้งหมด 13 ล้านบาท
พระอธิการปัญญากล่าวว่า ขณะเกิดเหตุอาตมาและพระลูกวัดเข้าไปทำความสะอาดพระประธาน และภายในศาลา ได้เกิดฝนฟ้าคะนองลมแรง อาตมาเดินออกมาจากศาลากลับไปยังกุฏิ พอพ้นออกมาศาลาก็พังยุบลงมาทั้งหลัง โชคดีพระลูกวัดที่ติดอยู่ภายในบาดเจ็บเล็กน้อย แต่คอมพิวเตอร์ พระพุทธรูปเสียหาย คาดว่าไม่ต่ำกว่า 6 ล้านบาท ศาลาหลังนี้ทางวัดรอเงินจากผ้าป่าสามัคคีที่จะมาทอดในช่วงสงกรานต์ เพื่อก่อสร้างต่อ แต่ก็มาเกิดลมพายุพัดพังลงมาเสียก่อน
ส่วน จ.บุรีรัมย์ ร.ต.อ.มานพ รอยประโคน ร้อยเวร สภ.เมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งอุบัติเหตุรถตกสระน้ำชุมชนหนองแปบ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จึงนำกำลังรุดไปที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า สีแดง ทะเบียน 4 กค 6416 กทม. บริเวณด้านหน้ารถจมลงไปในหนองน้ำ แต่เครื่องยนต์ยังติดอยู่ พบนายสุวิรัตน์ บุญมา อายุ 29 ปี คนขับรถยืนตัวเปียกโชกอยู่ริมสระน้ำ
จากการสอบสวนให้การว่าเป็นนักดนตรีอยู่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ขับรถมางานแต่งงานเพื่อนที่ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ และก่อนเกิดเหตุขับจะไปหาญาติที่ ต.อิสาณ ระหว่างทางเกิดฝนตกอย่างหนัก มองไม่เห็นทาง และไม่เห็นว่าเป็นทางโค้ง ทำให้รถเสียหลักหลุดโค้งลอยข้ามที่กั้นพุ่งตกลงหนองน้ำ โชคดียังมีสติเปิดกระโปรงหลังแล้วมุดออกมาขอความช่วยเหลือ จากชาวบ้าน และแจ้งตำรวจ
ด้าน จ.แพร่ นายชัยวรรณ นิยม นายอำเภอวังชิ้น เปิดเผยว่าเมื่อเย็นวันที่ 9 มี.ค. เกิดพายุฤดูร้อน ลมแรงและลูกเห็บตกในพื้นที่ ต.วังชิ้น และ ต.นาพูน บ้านเรือนประชาชนโดนลมพัดหลังคาและฝาผนังเสียหาย 17 หลัง โรงรถพังถล่มลงมาทับรถยนต์ 1 คัน และที่บ้านนาปลากั้ง หมู่ 3 ต.นาพูน ต้นไม้ทับล้มทับสายไฟฟ้า ทำให้ไฟฟ้าดับ แต่แก้ไขแล้ว
ส่วน จ.อุทัยธานี เมื่อเย็นวันที่ 9 มี.ค. เกิดพายุฤดูร้อนในพื้นที่ อ.สว่างอารมณ์ บ้านเรือน เสียหาย 30 หลัง ยุ้งข้าว 6 หลัง คอกสัตว์ 2 แห่ง จึงแจ้งประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และนายก อบต.ในพื้นที่ประสบภัยออกช่วยเหลือ และสำรวจความเสียหายอย่างเร่งด่วนแล้ว
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศว่า พายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นบริเวณประเทศไทยตอนบนมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากความกดอากาศสูงที่ปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังอ่อนลง ทำให้สภาวะความแปรปรวนของอากาศลดลง และมีอากาศร้อนเข้ามาแทนที่ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนกลับสู่สภาวะอากาศของฤดูร้อนปกติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน