เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 28 กย 59 นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเชิงดอยพร้อมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือลุงบุญศรี ซึ่งได้รับการเปิดเผยเรื่องราวว่า เก็บขยะขาย เพื่อนำเงินไปเลี้ยงดูแม่ตาบอด ภรรยาป่วยเป็นโรคกระดูกผิดรูป โรคหัวใจ และหลานป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองเป็นแผลพุพอง หลังจากสื่อนำเสนอเป็นข่าว โดยจะมีการซ่อมแซมบ้านที่เก่าและให้ทุนส่งเสริมอาชีพกับลุงบุญศรี ส่วนคนในบ้านที่ป่วยจะได้มีการส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลต่อไป
นางมลสุดา ชำนิประศาสน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่และกิ่งกาชาดอำเภอดอยสะเก็ด นายเฉลิม สารแปง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเชิงดอย เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือครอบครัวของนายบุญศรี เขื่อนแก้ว วัย 60 ปี ที่อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 160 บ้านปทุมนิเวศน์ ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
โดยพบว่า ครอบครัวดังกล่าวประสบกับความลำบากอย่างหนักเนื่องจากคนในครอบครัว ประกอบด้วยยายบัวคำ ต๊ะเต๋ อายุ 86 ปีแม่ของลุงบุญศรี ที่ตาบอดจากอุบัติเหตุนานกว่า 20 ปี นอกจากนี้ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง และคอพอก ซึ่งยายบังคำ อายุมากช่วยเหลือตัวเองค่อนข้างลำบาก ลุงบุญศรี ต้องคอยพยุงแม่เวลาจะเข้าห้องน้ำเพื่อขับถ่ายและอาบน้ำส่วนห้องนอนของยายบัวคำ ทั้งคับแคบและมืดต้องนอนบนฟูกผ้าเก่าๆกับผ้าห่มไม่มีที่นอน ส่วนคนที่สองคือนางเข็มทอง ทะระถา อายุ 60 ปี ภายาของลุงบุญศรี ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจและโรคกระดูกผิดรูปนาน 6 ปี ไม่สามารถเดินในระยะไกลได้จึงไม่สามารถออกไปทำงานนอกบ้านได้แต่ก็ยังพอที่จะช่วยเหลือตนเองและช่วยลุงบุญศรี ทำงานบ้านบางอย่างได้บ้าง
ส่วนคนสุดท้ายได้แก่นายศราวุฒิ คำชมพู อายุ 20 ปีซึ่งเป็นหลานของลุงบุญศรีที่ลูกสาว ไปทำงานต่างจังหวัดและทิ้งไว้ให้ลุงบุญศรี ซึ่งนายศราวุฒิ หลานชายลุงบุญศรี ป่วย เป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองตั้งแต่อายุได้ 12 ขวบมีแผลทั่วร่างกายคล้ายกับโรคสะเก็ดเงิน โดยลุงบุญศรี จะเลี้ยงไก่เนื้อขายและเก็บขยะตามในหมู่บ้านเพื่อนำไปขายเลี้ยงดูคนในครอบครัวแต่รายได้ไม่พอใช้ ซึ่งบางครั้งต้องไปช่วยงานที่วัดหนองบัวพระเจ้าหลวง ก็ได้อาหารก้นบาตรจากพระในวัดที่แบ่งปันมาให้สมาชิกในครอบครัวกินเพื่อบรรเทาความหิว
ด้านนายกเหล่ากาชาด เปิดเผยว่า หลังจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ทราบเรื่องได้มอบเงินส่วนตัวจำนวนหนึ่งเพื่อใช้ในการซ่อมแซมต่อเติมบ้านและห้องน้ำของลุงบุญศรี ที่ค่อนข้างจะทรุดโทรม โดยให้ช่างประจำเทศบาลตำบลเชิงดอยเป็นผู้ดูแลการก่อสร้าง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดเชียงใหม่ และอีกหลายหน่วยงานได้มอบข้าวสารอาหารแห้ง ที่นอนใหม่ และเงินช่วยเหลือ ครอบครัวดังกล่าว พร้อมกันนี้ได้ให้เงินทุนในการต่อเติมและเล้าไก่ และซื้อแม่พันธุ์ไก่ ที่นำมาเลี้ยงให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มรายได้ให้ครอบครัวและจะมีการส่งเสริมอาชีพอื่นเพื่อให้สามารถทำงานในบ้านได้
ส่วนยายบัวคำ ต๊ะเต๋ และนางเข็มทอง ทะระถา แม่และภรรยาลุงบุญศรี จะตัวไปรักษาในโรงพยาบาลที่มีความพร้อมกว่าโรงพยาบาลในพื้นที่ ขณะเดียวกันได้ให้เทศบาลตำบลทำหนังสือส่งตัว นายศราวุฒิ คำชมพู หลานชายลุงบุญศรี ที่ป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง ไปรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดให้อาการทุเลาลง และสามารถฟื้นฟูสภาพร่างกายจนสามารถกับมาช่วยเหลือตัวเองและกับมาเรียนหนังสือต่อ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่หลายหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือครับครัวนี้แล้วทางเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ และคณะจะกลับมาดูความเป็นอยู่ของคนในครอบครัวนี้อีกครั้งหนึ่งเพื่อดูความคืบหน้าในการช่วยเหลือต่อไป
