เมียหนุ่มเมาคลั่งใช้อีโต้เฉือนคอลูก 7 ขวบ ขู่ฆ่ายกครัว โต้ไม่เคยนอกใจ หนีไปมีอยู่กับชายอื่น ตามที่ผัวกล่าวหา ลั่นต้องไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว เพราะผัวไม่ยอมทำงาน วอนโลกโซเชียลอย่าด่วนตัดสิน

กรณี นายมนตรี (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี ชาว ต.ช่อผกา อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ใช้มีดอีโต้เฉือนคอและใบหูลูกสาววัย 7 ขวบได้รับบาดเจ็บสาหัส และใช้ขวดเหล้าที่แตกทิ่มคอลูกสาวคนโตวัย 9 ขวบหวังจะฆ่าให้ตายทั้ง 2 คนแล้วจะฆ่าตัวเองตายตาม สาเหตุเนื่องจากน้อยใจที่ภรรยาหนีไปอยู่กับชายอื่น จึงกินเหล้าย้อมใจแล้วลงมือก่อเหตุ เมื่อกลางดึกวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดลูกสาวคนเล็กวัย 7 ขวบที่ถูกอีโต้เฉือนลำคอและใบหูอาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่รพ.ชำนิ โดยมียายเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

หนุ่มเมาคลั่ง / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 8 พ.ค. น.ส.ทา อายุ 25 ปี ภรรยาของนายมนตรี เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ชำนิ พร้อมออกมาเปิดใจและชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ตนอยู่กินกับนายมนตรีมากว่า 10 ปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 2 คน เมื่อก่อนสามีจะชอบดื่มเหล้าไม่ค่อยทำงาน จึงมีปัญหากันบ่อยบางครั้ง ทนไม่ไหวก็ต้องหนีไปทำงานที่อื่น เมื่อสามีรับปากจะเลิกเหล้า และหางานทำจึงกลับมาอยู่ด้วยกัน โดยล่าสุดเปิดร้านซ่อมรถที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ แต่เปิดได้ประมาณ 3 เดือนก็ปิด ไปสมัครงานไว้หลายที่ แต่พอเขาเรียกไปทำงาน ก็ไม่ยอมไป

กระทั่งวันที่ 17 เม.ย. ตนจึงตัดสินใจไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อจะหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ซึ่งก่อนจะไปก็คุยกับสามีแล้ว แต่ช่วงที่ตนเองไปทำงานกรุงเทพฯ ได้ไม่กี่วันสามีก็กลับไปดื่มเหล้าอีก และชอบโทรศัพท์ไปหาตนช่วงเวลาทำงาน ตนจึงไม่ได้รับสาย เพราะกลัวจะถูกต่อว่า เพราะเพิ่งมาทำงานได้แค่ไม่กี่วัน แต่พอเลิกงานก็จะโทรวีดีคอล มาคุยกับสามีและลูกตลอด แต่พอรู้ว่าสามีกลับมาดื่มเหล้าอีก ก็ไม่อยากจะคุยด้วย ก็จะคุยแต่กับลูกสาว จึงทำให้สามีโกรธ ลงมือทำร้ายลูกประชดตนเอง

ซึ่งหลังเกิดเหตุตนก็โทรมาสอบถามอาการลูกตลอด เพราะเป็นห่วง ตั้งใจจะเดินทางกลับมาดูลูกด้วยตัวเอง แต่ยังมาไม่ได้ เพราะลางานไม่ได้ ประกอบกับไม่มีเงินด้วย กระทั่งเกิดเป็นข่าวโด่งดัง ก็ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก ทั้งสังคมและกระแสโซเชียลโจมตีตนเองต่างๆ นานา หาว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่อง จนต่อมาสามารถลางานได้ และพี่สาวให้เงินค่ารถ 400 บาท จึงตัดสินใจกลับมาบ้านทันที

“ที่สามีกล่าวอ้างว่า สาเหตุที่ทำร้ายลูกสาวเพราะประชดตนเองที่ไปมีชายคนอื่นนั้นไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าไม่เคยนอกใจหรือไปมีคนอื่นเลย แต่สามีดื่มเหล้าเมาแล้วชอบคิดระแวงไปเอง ที่สามีบอกว่าดิฉันไม่ได้ทำงานเอาแต่เล่นเฟซ เล่นไลน์ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะตอนอยู่บ้านดิฉันรับจ้างเลี้ยงลูกให้พี่สาวได้เดือนละ 3,500 บาท และเวลาว่างก็จะเล่นเกม เพื่อหารายได้จากการขายชิฟ ก็จะได้เดือนละ 4,000-5,000 บาท ทำให้มีเงินเลี้ยงครอบครัว ซึ่งสามีก็รู้และคุยกันตลอด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเกิดจากสามีดื่มเหล้าเมาหนักทำให้ขาดสติ ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบต่อสภาพจิตใจ และการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก จึงอยากวอนให้สังคมเห็นใจอย่าด่วนตัดสินหรือโจมตีกล่าวหา โดยที่ยังไม่ได้ฟังความจากทั้งสองด้าน” น.ส.ทา กล่าว

น.ส.ทา กล่าวต่อว่า หลังจากสามีถูกส่งตัวไปฝากขังที่เรือนจำ เพื่อรอการตัดสินคดี ตนก็พาลูกเดินทางไปเยี่ยม ซึ่งสามีก็ยอมรับผิดกับสิ่งที่ทำลงไป พร้อมขอโทษตนเองกับลูก ซึ่งตนก็ให้อภัย แต่จะกลับมาใช้ชีวิตด้วยกันเหมือนเดิมหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับการกระทำของสามีด้วยว่า จะปรับปรุงตัวได้หรือไม่ เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์ซ้ำรอยอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน