หวิดนอนคุก! เฒ่าวัย 70 ฉุน ด.ญ. 7 ขวบ เข็นรถเข็นชน ชักปืนไฟแช็คขู่กลางห้าง

เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 9 พ.ค. ศูนย์วิทยุนรสิงห์ สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือ มีผู้ใช้อาวุธปืนข่มขู่ภายในห้างบิ๊กซี สาขามหาชัย ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงรีบให้สายตรวจหน่วยบริการประชาชนคลองครุ เข้าตรวจสอบ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงก็พบกับผู้ที่ใช้อาวุธปืน (ปลอม) และผู้เสียหาย จึงได้พาทั้ง 2 ฝ่ายมาพบกับ พ.ต.ท.ปานเดชา มะโนเลิศ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อทำการสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายสุรนันท์ ไวยกาญจน์ อายุ 35 ปี ผู้เสียหาย เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า ตนพาลูกไปเดินซื้อของเปิดเทอมภายในห้างบิ๊กซี แล้วก็มีลุงคู่กรณีเดินมาชนลูกสาววัย 7 ขวบของตนเอง จากนั้นลูกของตนก็เข็นรถไปชนลุงคู่กรณีโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ลุงคู่กรณีกลับชักปืน (ทราบภายหลังว่าเป็นปืนปลอม) มาโชว์ ซึ่งถ้าตอนนั้นตนมีอาวุธปืนอยู่ในตัวก็คงยิงสวนกลับไปแล้ว เพราะต้องปกป้องลูกสาวและไม่รู้ว่าเป็นปืนจริงปืนปลอม ซึ่งตอนที่ลุงชักปืน (ปลอม) ออกมานั้น ก็มีคนเห็นกันเยอะแยะมากมาย ครั้นพอเด็กอายุ 7 ขวบเห็นตกใจกลัวจึงเดินหนีแต่ลุงคู่กรณีก็ยังเดินตามแล้วบอกให้อยู่เฉยๆ ซึ่งความที่ตนเองไม่รู้ว่าเป็นปืนจริงปืนปลอม ก็ไม่กล้าเข้าชาร์จ พอเด็กยืนนิ่งเขาก็ยืนด่าลูกอยู่หลายคำ ตนเห็นท่าไม่ดีจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาช่วยเหลือ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็สร้างความตกใจกลัวให้กับทั้งตนและลูก รวมถึงคนที่เห็นเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก โดยตนคิดว่า อาวุธปืนที่นำออกมาโชว์นั้น ไม่ว่าจะเป็นปืนจริงหรือปืนปลอมก็ไม่ควรที่จะกระทำแบบนี้

ขณะที่นายสมบัติ เอื้ออารีย์ อายุ 70 ปี ลุงคู่กรณี บอกว่าไม่มีอะไร ตนเองแค่มาเที่ยวห้างเท่านั้น โดยตนกับอีกฝ่ายไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ส่วนเหตุการณ์คือ เด็กเอารถเข็นมาชนหลังจนตนเกือบล้มคว่ำ ตนก็หันไปถามว่ามาชนทำ __อะไร แค่นั้นเอง แล้วตนก็ถูกด่ากลับ ซึ่งคนที่อยู่บริเวณนั้นก็ได้ยินว่าตนเองถูกด่ามากกว่าที่ตนด่าอีกฝ่าย อีกทั้งยังถูกอีกฝ่ายตามมาด้วย ตนจึงชักเอาปืนไฟแช็คที่พกติดตัวไปไหนมาไหนด้วยตลอดนั้น ออกมาเพื่อขู่เท่านั้น ซึ่งตนก็จับที่บริเวณปากกระบอกปืนไฟแช็คไม่ได้จับตรงด้ามปืน เพราะคิดว่าถ้าเขาเข้ามาทำร้ายก็จะใช้ปืนไฟแช็คตีอีกฝ่าย

ขณะที่ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำปืนไฟแช็คเก็บไว้เป็นหลักฐาน แล้วก็ให้ลุงคู่กรณีและฝ่ายผู้เสียหายตกลงกัน ซึ่งทางด้านของนายสุรนันท์ ไวยกาญจน์ ผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินการเปรียบเทียบปรับนายสมบัติ เอื้ออารีย์ อายุ 70 ปี ลุงคู่กรณีเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 392 ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจโดยการขู่เข็ญต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หลังจากนั้นก็ได้ปล่อยตัวกลับไป


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน