หนุ่มหายตัวลึกลับ 5 วัน ในป่าชายแดน เดินเข้าป่าตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. ยังไม่กลับออกมา เผยอยากไปเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในถ้ำ ญาติเชื่อถูกเจ้าป่าเจ้าเขาบังตาให้หาทางออกไม่เจอ บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ปล่อยตัวออกมาอย่างปลอดภัย

หนุ่มหายตัวลึกลับ / เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่ โรงเรียนบ้านโอทะลัน ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยที่ 22 ชุดเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี สนธิกำลังตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 ตำรวจเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บัวเชด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบัวเชด กองร้อยอาสารักษาดินแดน ผู้นำชุมชนบ้านโอทะลัน กว่า 80 นาย สนธิกำลังค้นหา นายชัยยศ โทษาธรรม อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 9 ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ที่สูญหายจากการหลงป่า บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นเวลา 5 วัน และยังไม่กลับออกจากป่า โดยตั้งศูนย์อำนวยการประสาน เพื่อปรึกษาหารือติดตามค้นหาผู้สูญหาย

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดสุรินทร์ ได้รับการร้องเรียน ขอความช่วยเหลือจาก นายประชา ตรวจมรรคา อายุ 28 ปี ญาติของนายชัยยศให้ช่วยติดตามหา หลังที่เดินทางเข้าป่า เขตแนวชายแดนแล้วไม่สามารถออกมาได้ บริเวณป่าด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ใต้บ้านโอทะลัน ต.จรัส เมื่อวันที่ 19 พ.ค. โดยนายชัยยศมาอาศัยอยู่กับพี่ชายที่อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งนายชัยยศมีความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์และเป็นร่างทรง เชื่อในสิ่งลี้ลับ เห็นในสิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็น

ญาติระบุว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา นายชัยยศขี่รถจักรยานยนต์มาหาหมอไสยศาสตร์ ท่านหนึ่งในพื้นที่อ.สังขะ จ.สุรินทร์ และพบปะพูดคุยกันถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ในป่าและถ้ำแห่งหนึ่งใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ในอ.บัวเชด และนายชัยยศมีความสนใจอยากไปเห็นและได้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่หมอไสยศาสตร์อีกท่านหนึ่งบอกไว้ จึงจัดหาสิ่งของพร้อมกับดอกไม้กำใหญ่ เพื่อไปบูชาและจะนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในถ้ำออกมา พร้อมกับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากอ.สังขะ มุ่งหน้าไปยังอ.บัวเชด และจอดรถไว้ในป่าสวนยางพาราของชาวบ้านพื้นที่บ้านโอทะลัน ก่อนจะเดินถือสิ่งของพร้อมดอกไม้มุ่งหน้าไปยังป่าเขาแหลม บริเวณถ้ำผาสาวโศก

ขณะที่ชาวบ้านที่พบเห็นสอบถามนายชัยยศว่า จะไปที่ไหนคนเดียวในป่าลึก นายชัยยศก็ไม่ตอบ แล้วเดินมุ่งหน้าเข้าไปในป่าไป ซึ่งบรรดาญาติๆก็ได้ข้อมูลจากชาวบ้านโอทะลันว่า เห็นนายชัยยศเดินทางมาที่ป่าชายแดนไทย-กัมพูชา จริง โดยแต่งกายนุ่งโสร่ง สวมใส่เสื้อสีขาว ถือสิ่งของและดอกไม้ เข้าไปในป่า คาดว่าน่าจะเดินทางเข้าไปยังถ้ำผาสาวโศก

จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจที่ 2 ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชนบ้านโอทะลัน พร้อมด้วยญาติๆ จึงเดินทางเข้าป่าใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ไปยังถ้ำผาสาวโศก โดยญาติๆ นำดอกไม้ เครื่องเซ่นไหว้บอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเจ้าที่ เจ้าทาง ที่ปกปักรักษาป่าเขา ถ้ำสาวโศก ให้ปล่อยตัวนายชัยยศออกมา

ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดค้นหาพากันเดินเข้าไปในถ้ำประมาณ 50-60 เมตร ใช้ไฟฉายส่องหาตามซอกถ้ำ ก็ไม่พบคนแต่อย่างใด และต้องรีบกลับออกมาเพราะข้างในมืดมากและไม่มีอากาศหายใจ ก่อนทำความเข้าใจกับญาติๆ ว่า การที่จะเข้าไปในถ้ำต้องเตรียมความพร้อมให้มากกว่านี้ มีไฟส่องสว่าง มีถังออกซิเจน และต้องปรึกษาหารือกับทีมงาน ค้นหาทีมอื่นๆ อีกด้วย พร้อมทั้งต้องได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาในการค้นหา ซึ่งญาติก็เข้าใจจะรอการติดตามค้นหาของเจ้าหน้าที่ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่กำลังค้นหาเจ้าหน้าที่ชุดค้นหาโทรศัพท์ ไปถามหมอไสยศาสตร์ร่างทรงที่นายชัยยศเดินทางไปพบ ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์มายังป่าไม้เขาแหลม อ.บัวเชด

ซึ่งร่างทรงบอกให้เจ้าหน้าที่ทราบว่า ขณะนี้เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเขาแหลม ยังไม่ปล่อยตัวนายชัยยศออกมา สิ่งที่บังตาไม่ใช่พระ แต่เป็นสิ่งลี้ลับใหญ่มากปิดบังไว้ ตนเองจะนั่งเข้าร่างทรง เพื่อขอให้ท่านปล่อยลูกหลานออกมา ขอเวลา 30 นาที จะติดต่อกลับมาหาเจ้าหน้าที่อีกครั้ง

แต่จนถึงขณะนี้การค้นหาก็ยังไม่พบตัวนายชัยยศแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดค้นหา จะค้นหาต่อไป ซึ่งการค้นหาในพื้นที่ป่าแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณนี้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินทางเป็นอย่างมาก เพราะเป็นพื้นที่สู้รบมาก่อน ยังมีกับระเบิดและทุนระเบิดฝังดินหลงเหลืออยู่ ขณะที่ผู้บังคับบัญชาย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกนาย ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังด้วย และช่วยตามค้นหาผู้ที่สูญหายให้พบโดยเร็วด้วย หากใครพบเจอให้แจ้งพี่ชายของนายชัยยศ โทร. 062-916-3029

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน