เหยื่อโดนตุ๋นลงทุน สูญ 397ล้าน อ้างชื่อ บิ๊กแดง ขู่ให้ถอนแจ้งความ นัดเคลียร์ในค่ายทหาร

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 พ.ค. ที่บก.ปอท. น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ อายุ 41 ปี พร้อมกลุ่มผู้เสียหาย ถูกบริษัทแห่งหนึ่ง หลอกร่วมลงทุนทำธุรกิจ โดยอ้างถึงบุคคลระดับสูงของกองทัพบกผ่านทางโลกโซเชี่ยล รวมตัวกัน 20 รายสวมผ้าปิดตา เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ภิภพ กลมกลึง รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ปอท. ให้ช่วยตรวจสอบและดำเนินคดี หลังแจ้งความกับท้องที่แล้วไม่ได้รับความคืบหน้า รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 397 ล้านบาท

น.ส.กฤษอนงค์ กล่าวว่า พวกตนถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนกับบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งอ้างว่ามีบริษัทคู่สัญญาทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนรวมกว่า 17 ช่องทาง อาทิ การประมูลงานราชการ รับวางบิล, ให้คำปรึกษาด้านสินเชื่อกับธุรกิจรายย่อย, การนำสินค้าเข้าออกประเทศ ซื้อขายเหล็ก คอร์สพัฒนาบุคลิกภาพ ซื้อขายเหล็กและอสังหาริมทรัพย์ โชว์รูมรถซุปเปอร์คาร์ และยังมีสินค้าหลากหลาย ทั้งอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพโดยอ้างถึงดารานักแสดงดัง

น.ส.กฤษอนงค์ กล่าวต่อว่า บริษัทดังกล่าวจะส่งภาพใบประมูลราคาตัวจริงของงานประมูลนั้นมาแสดงกับผู้เสียหาย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ พร้อมชักชวนให้ผู้เสียหายหลายๆ รายมาร่วมประมูลงานเดียวกัน นอกจากนี้ ยังเผยแพร่ข้อมูลโฆษณาชวนเชื่อผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ซึ่งมีคนแนะนำต่อๆกันมา โดยพวกตนเริ่มลงทุนตั้งแต่เมื่อต้นปี 2561

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ระยะแรกได้เงินปันผลตั้งแต่ 3-15% สำหรับผู้ลงทุนเกิน 1 ล้านบาทจะได้รับใบผู้ถือหุ้น กระทั่งเดือนก.ย.ปีเดียวกัน บริษัทเริ่มเปลี่ยนมาจ่ายค่าตอบแทนเป็นเช็คก่อนจะเป็นเช็คเด้ง พวกตนจึงร่วมตัวไปแจ้งความกับโรงพักท้องที่ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ รวมถึง กอ.รมน. แต่พวกตนทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน

น.ส.กฤษอนงค์ กล่าวต่อว่า เลขานุการคนสนิทของประธานบริษัทยังส่งภาพของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. และข้อความระบุว่า “เป็นผู้ใหญ่ที่ดูแลบอสอยู่ แนะนำให้ไปถอนแจ้งความแล้วค่อยมาไกล่เกลี่ยคืนเงินกัน” นอกจากนี้ ในการนัดอบรมหรือชี้แจงผู้เสียหายแต่ละครั้ง บริษัทดังกล่าวจะเลือกใช้สถานที่หรือหน่วยงานของทหาร เช่น กรมทหารราบ 11

เมื่อพวกตนสอบถามไปยังหน่วยงานดังกล่าว ทราบว่าได้ติดต่อขอเช่าสถานที่จริง แต่ไม่ระบุจุดประสงค์ไว้ จึงต้องรวมตัวแจ้งความในวันนี้ เพราะล่าสุดบริษัทดังกล่าว กำลังระดมทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ คอนโดมิเนียม ทำเลหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ พวกตนไม่ต้องการให้มีความเสียหายเพิ่มเติมอีก

ด้านร.ต.อ.ภิภพ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด หากพบว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จึงจะพิจารณาส่งผู้บังคับบัญชา แต่หากว่าไม่เข้าข่ายจะแนะนำผู้เสียหายดำเนินการต่อไป

 


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน