ทส.เต้น สั่งตั้งกรรมการสอบ 5 ขรก.กรมอุทยานแห่งชาติฯ ส่อทุจริตปลูกป่าแก่งกระจาน
วันที่ 1 มิ.ย. นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ตนได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงโครงการปลูกป่าเพื่อลดปัญหาอุทกภัย และภาวะโลกร้อนในพื้นที่ป่าแก่งกระจานฯ เนื้อที่ 4,200 ไร่ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยใช้งบประมาณเงินรายได้เพื่อบำรุงรักษาอุทยานแห่งชาติ จำนวน 15,960,000 บาทแล้ว เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรฯ เป็นประธาน
โดยให้สอบสวนข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติฯ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ จำนวน 5 ราย ว่ามีความผิดหรือทุจริตตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ โดยให้สอบว่ามีการนำกล้าไม้เข้าไปปลูกป่าจริงหรือไม่ หรือปลูกแล้วตรงตามแปลงที่ได้ขออนุมัติกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชหรือไม่ การปลูกป่ามีการปฎิบัติตามสัญญาหรือไม่ มีการฮั้วประมูลหรือไม่
ที่สำคัญ มีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับโครงการกระทำความผิดหรือไม่ ถ้าพบว่ามีความผิดก็จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบนัยเพื่อลงโทษต่อไป
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เมื่อถามว่า การร้องเรียนและการตรวจสอบเกิดขึ้นระยะหนึ่งแล้วและกรมสบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้ตรวจสอบและพบความไม่ชอบมาพากล ทำไม ทส.เพิ่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ปลัด ทส.กล่าวว่า เรื่องเพิ่งมาถึงกระทรวง และก่อนหน้านี้ ได้รอข้อสรุปการสอบสวนเบื้องต้นจากกรมอุทยานฯ แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงไม่ได้ช้า พยายามที่จะดำเนินการอย่างเต็มที่ เนื่องจากสังคมให้ความสนใจ
ทั้งนี้ จะใช้เวลาในการสอบสวนไม่นาน จะรู้ผลว่าข้าราชการ 5 นายที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวมีความผิดหรือไม่ เมื่อถามอีกว่า ข้าราชการ จำนวน 5 ราย ถูกตั้งคณะกรรมการสอบ สวนมีข้าราชการระดับ 9 ด้วยใช่หรือไม่ นายวิจารย์ กล่าวว่า มีด้วย
สำหรับ โครงการปลูกป่าเพื่อลดปัญหาอุทกภัย และภาวะโลกร้อนในพื้นที่ป่าแก่งกระจาน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 84 พรรษา เนื้อที่ 4,200 ไร่ ใช้งบประมาณจากเงินรายได้เพื่อบำรุงรักษาอุทยานแห่งชาติ 15,960,000 บาท ปลูกป่าในพื้นที่ทั้งหมด 4,200 ไร่ งบประมาณไร่ละ 3,800 บาท เกิดขึ้นช่วงระหว่างปี 2555-2556 เพื่อเพิ่มแหล่งอาหารและแหล่งน้ำให้เพียงพอต่อช้างป่า และสัตว์ป่า ไม่ให้เข้ามาสร้างความเสียหายแก่พืชไร่ของเกษตรกร ฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรม เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยกับสัตว์ป่าและต้นน้ำ
