วันที่ 16 มี.ค. ร.ต.อ.อัครเดช เพ็งวงษ์ รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้าน เลขที่ 69 หมู่ 8 บ้านถาวร ต.สวายจีก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จึงประสานรถดับเพลิงอบต.สวายจีก และ อบต.หลักเขต ไปฉีดน้ำดับก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม นายชลิต อุตสารัมย์ นายกอบต.สวายจีก หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์
ที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้บ้านไม้ชั้นเดียวของนางสมพงษ์ พิมรัมย์ อายุ 73 ปี อย่างรุนแรงโดยมีชาวบ้านช่วยกันหานำมาดับอย่างจ้าละหวั่น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงระดมฉีดน้ำดับไฟจนสงบ แต่ไฟเผาบ้านและทรัพย์สินวอดไม่เหลือ
สอบสวนนางสมพงษ์ ให้การว่า อาศัยอยู่บ้านหลังนี้กับหลานชายอายุ 7 ขวบ ขณะเกิดเหตุตนไปร่วมงานแต่งงานเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกัน ต่อมามีชาวบ้านวิ่งมาบอกว่าบ้านของตนเกิดไฟไหม้เมื่อกลับมาดูก็พบว่าบ้านถูกไฟไหม้วอดไปทั้งหลังแล้ว ซึ่งภายในบ้านมีเครื่องใช้ไฟฟ้าและผ้าไหมจำนวนมาก อีกทั้งยังมีเงินสดอีก 4 หมื่นบาทซึ่งเป็นเงินที่ได้เก็บสะสมจากลูกที่เดินทางไปทำงานที่กรุงเทพฯ ส่งมาให้ใช้จ่ายภายในครอบครัวถูกเผาไปกับไฟด้วย
ด้านนายกอบต.สวายจีก กล่าวว่า จากการสำรวจเบื้องต้นพบไฟเผาทรัพย์สินหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหม และเส้นไหมที่ยังไม่ทอเพราะหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านทอผ้าไหม ซึ่งเจ้าของบ้านมีอาชีพทำนาและมีอาชีพเสริมทอผ้าไหม นอกจากนั้นยังมีเงินเก็บจากที่ลูกส่งมาให้อยู่ในตู้อีกประมาณ 4 หมื่นบาท รวมค่าเสียหายประมาณ 2 แสนบาท ช่วงที่เกิดเหตุไฟไหม้ยายได้ออกไปงานแต่งเพื่อนบ้าน
สาเหตุคาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งอบต.จะนำเงินส่วนหนึ่งพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคมาช่วยเหลือ และตั้งเต็นท์ให้ยายกับหลานได้อยู่อาศัยชั่วคราว พร้อมตั้งจุดรับบริจาคเพื่อนำมาช่วยเหลือในอีกทางหนึ่งด้วย
