ผู้ว่าฯเร่งสอบ “หางงูในปลาร้า” ชาวบ้านเปิดเจอผงะ หวั่นกระทบผู้ประกอบการรายอื่น
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ว่า ไปซื้อปลาร้าที่แบ่งขายใส่ถุงเป็นกิโลกรัม ที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ เป็นประจำ ขณะทีกำลังนำมาประกอบอาหาร พบชิ้นส่วนของปลาร้า ที่มีลักษณะคล้าย “หางงู” ติดปะปนในถุงปลาร้ามาด้วย จึงถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ
คืบหน้าล่าสุด วันที่ 4 มิ.ย. นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการ จ.ชัยภูมิ แจ้งว่าล่าสุดทางจังหวัดได้มีการประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ จัดชุดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปตรวจสอบขอดูชิ้นส่วนปลาร้าคล้ายหางงูแล้วซึ่งเป็นบ้านของนายวินัย เสาะสาย อายุ 46 ปี
นายณรงค์ กล่าวว่า แต่ นายวินัย ไม่อยู่บ้านไปทำธุระที่ต่างจังหวัด เบื้องต้นทางชุดจนท.สาธารณสุข ได้พบกับภรรยาของผู้ร้องเรียนรายนี้ พร้อมญาติบ้านใกล้เคียงทั้งหมดแล้ว เพื่อขอรับทราบข้อมูลแหล่งที่ไปซื้อปลาร้าดังกล่าวมาและต้นตอแหล่งผลิตทั้งหมด เพื่อจะดำเนินการเข้าตรวจสอบแหล่งผลิตสุ่มตรวจ หาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ว่ายังมีชิ้นส่วนอื่นเจือปนที่ไม่ใช่ชิ้นส่วนของปลา หรือปลาร้า ที่ถูกต้องตามสุขอานามัยเพิ่มเติม คาดว่าจะสามารถรู้ผลได้ในไม่เกินสัปดาห์นี้ว่าชิ้นส่วนที่พบและแหล่งที่มาผลิตปลาร้าจำหน่ายดังกล่าวถูกต้องตามหลักอนามัยที่ผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐานในครั้งนี้ด้วยหรือไม่
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
นายณรงค์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นในส่วนของปลาร้าอื่นๆที่มีจำหน่ายที่ใน จ.ชัยภูมิ ที่พบขายทั่วไปตามย่านต่างๆในตลาดสดทางจังหวัดชัยภูมิ เองก็ได้มีการออกตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพมาต่อเนื่องเป็นอย่างดีมาตลอด และผู้บริโภคยังสามารถหาเลือกซื้อบริโภคได้ตามปกติ และไม่อยากให้เกิดความหวาดกลัวจนไม่กล้าบริโภคปลาร้ากันไปใหญ่อีก เพียงแต่การซื้อมาบริโภคในแต่ละครั้งต้องมีการตรวจดูก่อนบริโภค หากพบสิ่งผิดปกติ มีชิ้นส่วนหรือมีสิ่งปะปนมาก็ควรหยุดบริโภคไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัย และรีบแจ้งจนท.ที่เกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบ เพื่อที่จะได้ช่วยกันตรวจสอบมาตรฐานสินค้า ที่อยากให้มีคุณภาพที่ดีมีมาตรฐานมากขึ้นในครั้งนี้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคตด้วย
นายณรงค์ กล่าวต่อว่า ถ้าสินค้ามีคุณภาพมีมาตรฐานรับรอง มีสัญญาลักษณ์มีฉลากติดรับรอง อย.มีชื่อผู้ผลิต วันผลิต วันหมดอายุ ที่มาของชื่อผู้ผลิตที่จะต้องพร้อมรับผิดชอบต่อผู้บริโภคด้วย ปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้า ในการพลิกวิกฤตมาเป็นโอกาสให้ได้รับความนิยมมากขึ้น และก็จะเป็นอีกจุดที่ผู้บริโภคจะหาเลือกซื้อและสร้างความเชื่อมั่นต่อการบริโภคปลาร้าของคนในพื้นที่ได้กลับมามากขึ้นด้วย
“ครั้งนี้ไม่อยากให้เกิดผลกระทบจนขาดความเชื่อมั่น จนไม่กล้าไปซื้อปลาร้ามารับประทานกันเลย ในภาพรวมปลาร้าของจังหวัดชัยภูมิยังมีให้เลือกตามหลักที่แนะนำไปอย่างปลอดภัยดีอีกจำนวนมาก และไม่อยากให้ปัญหาจากคนไม่กี่คน มาทำให้ปลาเน่าตัวเดียวเสียหายทั้งข้อง จนกระทบต่อคนที่ทำดี ยังมีปลาร้ามีคุณภาพดีๆมีจำหน่ายที่มีคุณภาพดีๆมีให้เลือกอีกจำนวนมากในพื้นที่ของจ.ชัยภูมิ ในครั้งนี้ด้วยต่อไป” นายณรงค์ กล่าว
