ผวจ.พิจิตรลุยตรวจสอบ แพสูบน้ำเข้า บึงสีไฟ ลอยหาย สั่งจนท.เร่งแก้ไขด่วน

จากกรณีเมื่อปี 59 พิจิตรได้ประสบปัญหาอย่างหนักในเรื่องภัยแล้ง บึงสีไฟ ซึ่งเป็นบึงใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ เนื้อที่ 5,000 ไร่ แห้งขอด ทั้งที่บึงสีไฟเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เชิดชูตาของจังหวัด ปรากฏว่าหลังเกิดปัญหา พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกฯ ได้เดินทางมาพิจิตร และอนุมิติงบประมาณ 25 ล้าน สร้างแพสูบน้ำจากแม่น้ำน่านเข้าสู่บึงสีไฟ บริเวณบ้านวังตาดี ต.ท่าหลวง อ.เมืองพิจิตร สร้างเสร็จตั้งแต่ปี 2558-2559 แต่ไม่สามารถใช้ได้ ประกอบกับถูกกระแสน้ำพัดลอยไปห่วงจากจุดที่ตั้ง 6 กม. ก่อนาวบ้านไปเจอและมัดไว้ริมตลิ่ง

ล่าสุดวันที่ 9 มิ.ย. นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผวจ.พิจิตร พร้อมด้วยชลประทานจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่บริเวณสถานีสูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้าริมแม่น้ำน่าน บ้านวังตาดี ต.ท่าหลวง อ.เมืองพิจิตร เพื่อตรวจสอบพบว่าแพสูบน้ำพลังไฟฟ้าสูบน้ำจากแม่น้ำน่านเข้าสู่บึงสีไฟได้กลับมาอยู่ที่เดิมแล้ว หลังจากหลุดลอยหายไปนาน โดยชลประทานใช้งบประมาณในการลากกลับมาไว้ที่เดิม 6,000 พันบาท โดยชลประทานจังหวัดพิจิตรได้เริ่มสูบน้ำมาตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา

จากนั้นผวจ.พิจิตร สั่งชลประทานเดินเครื่องสูบน้ำว่าใช้การได้หรือไม่ ตลอดเส้นทางเข้าสู่บึงสีไฟ โดยชลประทานประกอบท่อน้ำและอุปกรณ์ระบบเครื่องสูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้า เพื่อเดินเครื่องโดยได้ทำการสูบน้ำจากแม่น้ำน่าน เข้าระบบท่อซีเมนต์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร ระยะทาง 2.7 กิโลเมตร ลงสู่พื้นที่บึงสีไฟก็สามารถใช้การได้ จากนั้นก็ปิดเครื่องสูบน้ำ เนื่องจากใช้งบประมาณในการสูบน้ำชั่วโมงละ 900 บาท

นายวรพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ อนุมัติงบประมาณแก้ปัญหาภัยแล้งบึงสีไฟ 25 ล้านบาท มาก่อสร้างเดินท่อระยะทาง 2.7 กิโลเมตร สูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแม่น้ำน่าน ซึ่งที่ผ่านมาถึงแม้โครงการแล้วเสร็จ แต่เทศบาลเมืองพิจิตรไม่รับการถ่ายโอน เนื่องจากติดเรื่องงบประมาณผูกพันค่ากระแสไฟฟ้า อีกทั้งแพเครื่องสูบน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากปีที่ผ่านมา แพเครื่องสูบน้ำได้หลุดลอยตามกระแสน้ำไป ซึ่งชาวบ้านได้ช่วยกันลากขึ้นมามัดไว้ริมตลิ่ง ห่างจากสถานีสูบน้ำไปราว 6 กิโลเมตร

โดยวันนี้ชลประทานจังหวัดได้ติดตามลากนำกลับมาเดินเครื่องสูงน้ำได้ พร้อมให้ชลประทานใช้รวดมัดแพเครื่องสูบให้แน่น เพื่อไม่ให้หลุดซ้ำ พร้อมทั้งติดตั้งระบบไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้ชลประทานจังหวัดพิจิตรเป็นผู้ดูแล ทั้งเรื่องงบประมาณค่าสูบน้ำและการบริหารจัดการสูบน้ำแก้ปัญหาวิกฤตของบึงสีไฟ โดยจะทำการสูบน้ำรักษาระบบในพื้นที่กันเขตไว้ประมาณ 120 ไร่ก่อน เพราะส่วนพื้นที่ที่เหลือนั้นยังติดโครงการขุดลอกและฟื้นฟูบึงสีไฟของกรมเจ้าท่าอยู่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน