จากกรณีพบศพ 2 หนุ่มวัยรุ่นบนถนนสายเซาร์เทิร์นซีบอร์ด คือนายวัชระ ทองชล อายุ 19 ปี ชาวจ.สุราษฎร์ธานี ถูกยิงท้ายทอยทะลุหน้าผาก และนายสราวุฒิ นาคสด อายุ 21 ปี ชาวจ.สุราษฎร์ธานี ถูกยิงเข้าที่กลางหลัง 1 นัด ตามร่างกายยังมีรอยฉีกขาดบริเวณลำตัวเนื่องจากถูกรถชน ใกล้กับพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเสียหลักล้มคว่ำอยู่ คาดว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ถูกคนร้ายใช้รถยนต์ไล่ยิง จนเมื่อรถล้มลง จึงขับรถเหยียบซ้ำ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว สุดเหี้ยม! คนร้ายประกบยิง 2 โจ๋สุราษฎร์ตายกลางถนน ยังไม่พอ-ขับรถเหยียบซ้ำ
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 19 มี.ค. พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานเพิ่มเติม บริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม โดยเตรียมนำส่งเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัย นอกจากนั้นได้ตรวจสอบเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้ายหลังจากเชื่อว่า หลังคนร้ายก่อเหตุได้ขับรถยนต์เหยียบซ้ำศพผู้เสียชีวิต
พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนได้เร่งสืบสวนจนทราบเบาะแสกลุ่มคนร้าย เบื้องต้นมีอย่างน้อย 2 คน อายุระหว่าง 25-30 ปี และเป็นบุคคลในท้องที่ที่เกิดเหตุ ล่าสุดได้พยานยืนยันว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องสงสัยได้นัดให้ผู้ตายทั้ง 2 ออกไปยังจุดที่เกิดเหตุ เพื่อเจรจาบางอย่าง แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงเชื่อว่าขณะเกิดเหตุผู้ตายทั้ง 2 พยายามขับรถจักรยานยนต์เพื่อหลบหนี แต่ถูกคนร้ายไล่ยิงจากด้านหลัง และกระสุนถูกนายสราวุฒิ ซึ่งนั่งซ้อนท้ายจนตกจากรถลงบนถนน
ส่วนสภาพศพที่มีร่อยรอยของการถูกรถชนซ้ำนั่น อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจณ์ของเจ้าหน้าที่ แต่เบื้องต้นการสืบสวนตำรวจคาดว่า รถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นรถจักรยานยนต์เช่นกัน จึงอาจเป็นไปได้ว่า ศพอาจจะถูกรถยนต์ที่ใช้ถนนดังกล่าวเหยียบซ้ำ หลังจากที่ถูกยิงจนเสียชีวิตแล้ว
พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวด้วยว่า ได้เร่งรัดให้พนักงานสอบสวนเร่งส่งพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของผู้ต้องสังสัยทั้ง 2 รายแล้ว เนื่องจากจะเป็นพยานหลักฐานสำคัญในการออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ส่วนสาเหตุยังมุ่งสอบสวนเกี่ยวกับความขัดแย้งส่วนตัว และความขัดแย้งธุรกิจนอกกฎหมาย ซึ่งการสืบสวนสอบสวนมีความคืบหน้าไปมากแล้ว และมั่นใจว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้
