จับแล้ว! 2 หนุ่มโหด ฆ่าเผานั่งยาง ในสวนปาล์มขอบญาติ เล่านาทีลงมือเหี้ยม ทุบจนตาย ก่อนช่วยกันลากไปเผา แล้วนั่งดื่มเบียร์ย้อมใจ อ้างค้างค่ายาบ้า 3 ล้าน พอออกจาคุกเลยไปตามล่า
ฆ่าเผานั่งยาง จากกรณีพบกระดูกมนุษย์ ถูกเผานั่งยาง ที่หน้าบ้านภายในสวมปาล์ม ซอยวัดถ้ำอัศจรรย์ หมู่ 2 ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ นอกจากนี้ยังพบคราบเลือด ยางรถยนต์หายไป 4 เส้น และเสื้อผ้าของเจ้าของบ้านก็หายไป รวมทั้งยังพบขวดเบียร์เปล่า 2 ขวดวางอยู่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 16 มิ.ย. พ.ต.อ.พสิษฐ์ ก้อนสิน ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนและสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ทัศจักร ลีลาโรจนกุลเลิศ พ.ต.ท.สมมาตร สังข์ทอง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.วศพล เรืองจ้อย รอง ผกก.สส.สภ.ทับสะแก ร.ต.อ.วินัย รายละเอียด รองสารวัตร (สอบสวน) เจ้าของคดี พร้อมชุดสืบสวน นำตัว นายยศพัทธ์ พ่วงเพชร หรือหนู อายุ 37 ปี ชาว จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นหลานชาย น.ส.ปราณี รอดไข เจ้าของสวนปาล์ม และ นายณรงค์ หรือบอย รอดเจริญ อายุ 32 ปี ชาว จ.ปทุมธานี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คดีฆ่าเผานั่งยาง นายสหภาพ คงคำ อายุ 45 ปี ชาว จ.นนทบุรี ที่สวนปาล์มดังกล่าว
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปทำแผนเริ่มต้นจุดที่ 1 โรงแรมที่ผู้ต้องหาไปพักกันที่ พีแอนด์ดี มอเตอร์อินท์รีสอร์ต หมู่ 1 ต.อ่างทอง ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. และจุดที่ 2 บริเวณร้านค้าปากซอยทางเข้าบ้านที่เกิด ซึ่งได้เดินทางไปเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 แวะไปซื้อน้ำมันเบนซิน พร้อมด้วยเบียร์อีก 4 ขวด จากนั้นก็ไปชี้จุดที่บ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ในสวนปาล์มของ น.ส.ปราณี
เจ้าหน้าที่ได้ทำแผนเริ่มต้นจากที่ผู้ต้องหาและผู้ตายได้นั่งคุยกันอยู่ที่บริเวณโต๊ะหน้าบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อตกลงกันไม่ได้ จึงใช้ไม้ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุฟาดเข้าไปด้านหลังของผู้ตาย เมื่อล้มลงจึงฟาดซ้ำไปที่บริเวณศีรษะหลายครั้ง จนผู้ตายนิ่งไป จากนั้น นายยศพัทธ์ ได้ลากผู้ตาย ลงจากโต๊ะที่นั่งอยู่ เพื่อไปเผาที่กองไฟ โดยมี นายณรงค์ คอยช่วยเหลือ พร้อมช่วยกันเผาจนเหลือแต่กระดูก ก่อนมานั่งดื่มเบียร์ย้อมใจ โดย นายยศพัทธ์ ได้บอกกับ นายณรงค์ ไม่ให้นำเรื่องนี้ไปบอกกับใคร และก็พากันหลบหนี
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ผู้ตายติดหนี้ค่ายาเสพติดกับเอเย่นต์คนหนึ่ง ที่มี นายยศพัทธ์ ร่วมอยู่ด้วย จำนวนกว่า 3 ล้านบาท โดยเมื่อผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ออกจากคุกในคดียาเสพติด จึงได้ไปหาผู้ตาย เพื่อเคลีย์เงินจำนวนดังกล่าว เมื่อผู้ตายบ่ายเบี่ยงจึงถูกฆ่าเผานั่นยางดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
