เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์จากมวลลำน้ำชีเส้นเลือดหลักของชาวอีสานเอ่อล้นทะลักเข้าท่วม ไร่นาบ้านเรือนประชาชนกว่า 2 อำเภอ คือ อำเภอจัตุรัสและอำเภอเนินสง่า ซึ่ง
ได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านบึงละหาน ต.ละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิทั้งหมด 6 หมู่บ้านทั้งตำบลประชาชนได้รับความเดือนร้อน และวอนขอความช่วยเหลือ เพราะเจ้าหน้าที่เข้าไม่ถึงกว่า 100 หลายหลังคาเรือน และขณะนี้ระดับน้ำชียังคงหนุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ล่าสุดที่บ้านท่าหว้า ม.8 ต.กะฮาต อ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ มีมวลน้ำจากลำน้ำชีเอ่อล้นทะลักเข้าท่วมเพิ่มอีก ที่สำนักสงฆ์ประชาศรัทธาธรรม บ้านท่าหว้า ม.8 ในกลางดึกที่ผ่านมา
พระวันชัย ยโสธโร เจ้าอารวาส และพระอุดม วสันโน พระลูกวัด เล่าให้ฟังว่า ที่วัดเป็นสำนักสงฆ์เป็นสำนักเล็กๆ มีพระและเณรรวมทั้งเด็กวัดอยู่ร่วมกัน 20 ชีวิต เป็นสำนักปฎิบัติธรรมและได้ส่งพระเณรเรียนหนังสือด้วย จึงมีพระเณรมากแต่ มีกุฎิอยู่ 6 หลังจึงให้เณรนอนรวมกัน 2 กุฎิ ซึ่งก็ไม่เพียงพอแต่ก็นอนกันได้ โดยช่วงเย็นวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา มวลน้ำจากลำน้ำชีทะลักเข้าทุ่งนามาด้านหลังวัด โดยสถานการณ์ขณะนั้นยังคงปกติ ไม่ได้ตื่นตูมอะไร เพราะเคยท่วมใหญ่มาแล้วเมื่อปี 2554 จนอยู่ไม่ได้ หลังถมดินลงบ้างแล้วบริเวณทางเข้าหน้าวัดก็คิดว่าน้ำคงไม่ท่วมถึงอีก แต่เมื่อช่วงกลางดึกระดับน้ำเริ่มเอ่อสูงขึ้น จนพระเณรรีบตื่นขนของออกจากกุฎิโดยเร็ว ขึ้นมานอนบนศาลาฉันกันทั้งหมด และเช้านี้ระดับน้ำที่ล้นทะลักออกมายังคงสูงขึ้นกว่า 1-2 เมตรแล้ว และน่าจะเอ่อขึ้นมากกว่านี้ จนเกือบถึงระดับปี 54 แน่นอน หากฝนยังคงตกลงมาอีก
ขณะที่นายชูศักดิ์ ตรีสาร ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ นำเหล่ากาชาดจังหวัดชัยภูมิ ฝ่ายความมั่นคง ปค.ชย. และกำลังพลจาก กองร้อย อส.จ.ชย.ที่ 1 จัดเตรียมถุงยังชีพ จำนวน 500 ชุด เพื่อเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ หากมีการร้องขอพร้อมที่จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้ทันทีอีกด้วย
