คุมตัว 3 วินจยย. ยกพวกถล่มฝากขัง แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่า หนึ่งใน 3 โดนข้อหาเสพบ้าโดนคุก 6 เดือน สน.บางนาอายัดตัวข้อหาร่วมกันฆ่า ตร.จ่อออกหมายจับเพิ่มอีกนับ 10 ราย เร่งล่าอีก 2

จากกรณีคดีทะเลาะวิวาทของกลุ่มวินจยย.ปากซอยสุขุมวิท 103 สองวินรถจยย.ยกพวกทะเลาะวิวาท และใช้อาวุธปืนยิงกันจนมีผู้ถูกลูกหลงเสียชีวิต 1 รายคือ นายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ อายุ 20 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมานั้น

วินจยย. / ความคืบหน้าเวลา 14.30 น. วันที่ 17 มิ.ย. ที่สน.บางนา เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว นายปิยะ พวงเกษร นายรังสรรค์ ศรไชยากร และนายเจริญ เจริญผล ไปขออำนาจศาลจังหวัดพระโขนง เพื่อฝากขังชั่วคราว พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่มีอัตราโทษสูง หากได้รับการปล่อยตัวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ประกอบกับยังมีพยานหลักฐานที่ต้องสอบสวนต่อ เกรงว่าอาจเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้ ซึ่งศาลได้รับคำขอของพนักงานสอบสวนไว้พิจารณาแล้ว จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คนต่างให้การปฏิเสธข้อหาทั้งหมด

พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง รองผบก.น.5 เปิดเผยว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่จะรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีกนับสิบราย สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับไปแล้ว 7 หมายนั้น เป็นกลุ่ม
วินรถจยย.อุดมสุข 1 ซึ่งเป็นฝั่งจุดชนวนทะเลาะวิวาท

ซึ่งเจ้าหน้าที่จะออกหมายจับวินจยย.ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งนี้ตนขอประชาสัมพันธ์ว่า ใครที่ปรากฎตัวในคลิปจะถูกออกหมายจับทั้งหมด หากใครบริสุทธิ์ใจก็มามารถมาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ได้ ส่วนกรณีมีคลิปผู้เสียชีวิตร่วมรุมทำร้ายร่างกายผู้อื่นนั้น ตนให้พนักงานสอบสวนรวบรวมข้อมูลเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้มีผู้ต้องหาถูกออกหมายจับเบื้องต้นแล้วจำนวน 7 คน ประกอบด้วย 1.นายรังสรรค์ ศรไชยากร 2.นายวันชัย มงคลเข็ม 3.นายปิยะ พวงเกษร 4.นายประมุข วิเลียรดิลกกุล 5.นายพันธ์ศักดิ์ พละทรัพย์ 6.นายมานพ มิ่งมงคล และ 7.นายจีระพงษ์ วิบูลย์รัชกิจ โดยทั้งหมดถูกแจ้ง 4 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพกพาอาวุธเข้าไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันยิงปืนโดยใช่เหตุ ทั้งนี้ผู้ต้องหาคนที่ 4-7 ถูกแจ้งข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปเพิ่มเติมเข้ามาด้วย

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้จับกุม นายจีระพงษ์ หรือ เบส วิบูลย์รัชกิจ เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นายพันธ์ศักดิ์ พละทรัพย์ และนายมานพ มิ่งมงคล รวมมีผู้ต้องหาในคดีนี้ถูกจับกุมไปแล้ว 6 ราย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ออกไป 5 หมาย ซึ่งนายเจริญนั้นถูกเจ้าหน้าที่จับกุมไปก่อนหน้าที่จะออกหมาย หลังเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักนายเจริญหลังเกิดเหตุในช่วงเช้าของวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้เหลือนายวันชัยและนายประมุข ที่ยังหลบหนีอยู่ 2 คน

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนายประมุขนั้นประสานเข้าให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุแล้ว แต่ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ออกหมายจับเนื่องจากหลักฐานยังไม่ถึง โดยในวันนี้นายประมุขส่งทนายมาพบเจ้าหน้าที่แล้ว เนื่องจากขณะนี้นายประมุขยังรักษาตัวอยู่ เพราะมีแผลบาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาท สำหรับนายวันชัยนั้นยังไม่มีวี่แววจะมอบตัวแต่อย่างใด และอยู่ระหว่างการหลบหนีการจับกุม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

วันเดียวกัน ที่ศาลจังหวัดพระโขนง พนักงานสอบสวน สน.บางนา คุมตัวนายรังสรรค์ หรือเอ็กซ์ ศรไชยากร อายุ 29 ปี ผู้ต้องหากลุ่มผู้ขับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ยกพวกทะเลาะวิวาทบนถนนสุขุมวิท มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-28 มิ.ย. นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานอีก 6 ปาก รอผลตรวจของกลางและผลการตรวจสอบพิมพ์มือผู้ต้องหา

คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2562 มีกลุ่มผู้ขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง 2 กลุ่ม คือปากซอยสุขุมวิท 101/5 กับซอยอุดมสุข 2 ยกพวกทำร้ายร่างกายกัน กลุ่มวินซอยอุดมสุขวิ่งหลบหนีเข้าไปในชุมชนรุ่งเรือง กลุ่มวินปากซอยสุขุมวิทได้ติดตามไป ซึ่งมีนายปิยะ หรือหมู พวงเกษร, นายรังสรรค์ (ผู้ต้องหา) และนายวันชัย หรืออั้ม มงคลเข็ม มีอาวุธปืนทั้ง 3 คนพร้อมกับพวกอีกจำนวนหนึ่ง ได้ยิงปืนเข้าไปในชุมชนรุ่งเรือง เป็นเหตุให้นายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ ถูกกระสุนถึงแก่ความตายในที่เกิดเหตุ

ขณะเดียวกันมีนายวัชรินทร์ งาเฉลา ซึ่งอยู่กลุ่มวินปากซอยสุขุมวิท ถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บ ส่วนกลุ่มก่อเหตุได้แยกย้ายกันหลบหนีไป ต่อมาสอบสวนพยานบุคคลและสืบสวนภาพกล้องวงจรปิด ยืนยันว่ากลุ่มวินปากซอยสุขุมวิทมีนายรังสรรค์ ผู้ต้องหาถืออาวุธปืนแนบข้างนายปิยะ ที่ใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในชุมชนแล้วถูกผู้ตาย

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองฯ โดยมิได้รับอนุญาตฯ, ร่วมกันพกพาอาวุธเข้าไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุสมควร และร่วมกันยิงปืนฯ, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายฯ ให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี

วันเดียวกัน พนักงานสอบสวน สน.บางนา ได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกนายเจริญ เจริญผล ผู้ต้องหาในคดีนี้อีกราย โดยแจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เนื่องจากมีพฤติการณ์ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่คู่กรณีไม่ให้เข้ามาในซอย จากนั้นผู้ต้องหาได้ในอาวุธปืนไปซุกซ่อนไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึดอาวุธปืนดังกล่าว ซึ่งผู้ต้องหารับว่าเป็นของตนจริง และไม่มีใบอนุญาต จึงแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ศาลพิจารณาและสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 แล้ว อนุญาตให้ฝากขัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายปิยะ พวงเกษร ผู้ต้องหาในคดีอีก 1 รายที่ถูกควบคุมตัวได้พร้อมกับผู้ต้องหาอีก 2 คนนั้น ทางพนักงานสอบสวน นำตัวนายปิยะไปส่งพนักงานอัยการฟ้องศาลจังหวัดพระโขนงแล้ว ในข้อหาเสพฯ เมทเเอมเฟตามีน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

โดยนายปิยะให้การรับสารภาพ ศาลจึงพิพากษาให้จำคุก 6 เดือนปรับ 1 หมื่นบาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษคงเหลือจำคุก 3 เดือนปรับ 5 พันบาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี โดยภายหลังมีคำพิพากษาเเล้วพนักงานสอบสวนได้อายัดตัวนายปิยะไปควบตัวที่ สน.เพื่อสอบสวน ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น จากเหตุการณ์ปะทะกันที่ย่านอุดมสุขต่อโดยมีอำนาจคุมตัวไว้อีก 48 ชั่วโมง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน