เปิดปฏิบัติการสยบไพรี Endgame จุดซาตานแดนอีสาน! บุกรวบ อดีตรองนายกอบต. แก๊งยานรกระดับสั่งการ ลุยค้นบ้านพักยึดทรัพย์สิน 58 ล้านบาท เร่งล่าตัวน้องชายร่วมเครือข่ายด้วย

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส. สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่จ.เพชรบูรณ์ กว่า 100 นาย เข้าตรวจค้นเป้าหมาย ภายใต้ยุทธการสยบไพรี 62/14 ตอน “ENDGAME” ภาค 2 จุดจบซาตานแดนอีสาน ขยายผลตรวจค้นเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่จับกุม นายสมบัติ เลือดทหาร อดีตรองนายก อบต.ระวิง อ.เมืองเพชรบูรณ์ 1 ใน 2 ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีสมคบกันค้ายาเสพติด

สืบเนื่องจากการสืบสวนทราบว่า เครือข่ายยาเสพติดรายนี้เป็นเครือข่ายยาเสพติดในระดับสั่งการ ทำให้ยาเสพติดถูกแพร่กระจายเข้าสู่เมืองชั้นในของประเทศ โดยเจ้าหน้าที่แบ่งกำลังออกเป็น 7 ชุด นำอดีตรองนายกอบต.ที่ถูกจับกุมตกเป็นผู้ต้องหาก่อนหน้านี้ไปตรวจค้นบ้านพักในเขต อ.เมืองเพชรบูรณ์ และพื้นที่บริเวณข้างเคียง

ส่วน นายไพรรัตน์ เลือดทหาร น้องชายอดีตรองนายกฯ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับอีกรายที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนี อย่างไรก็ตาม ในการตรวจค้นขยายผลครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจยึดทรัพย์สินและตรวจสอบจำนวนหลายสิบรายการ ซึ่งเป็นของ 2 ผู้ต้องหาและบุคคลที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นมีมูลค่าราว 58 ล้านบาท อาทิ ปืนพก, พระเครื่องเลี่ยมทอง, ทองรูปพรรณ, บ้านพัก, รถจักรยานยนต์, รถยนต์ สมุดบัญชีเงินฝากและยาบ้า 8,461 เม็ด ยาไอซ์ 162 กรัม

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ต่อมา พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อร่วมแถลงผลการขยายผลปฏิบัติการตามยุทธการสยบไพรี 62/14 ร่วมกับตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ พร้อมระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเกาะติดอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ระยะเกือบ 3 ปี ในการเก็บข้อมูลและตรวจสอบ จนไปสู่การรวบรวมหลักฐานยื่นต่อศาลเพื่อออกหมายจับ 2 ผู้ต้องหาดังกล่าว

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตามข้อมูลพบว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นนักค้ายาเสพติดระดับสั่งการ ครั้งละจำนวนมาก ๆ และมีกลุ่มการเชื่อมโยงกับขบวนการค้ายาเสพติดราวถึง 7 คดี โดยคดีที่มีการจับกุมและขยายผล กระทั่งมีข้อมูลพาดพิงเขื่อมโยงถึงเครือข่ายยาเสพติดรายนี้ ได้แก่ คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2561 จับยาบ้า 400,000 เม็ด และไอซ์ 22 กิโลกรัม ที่อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

คดีที่ 2 วันที่ 30 พ.ค. 2561 จับยาบ้า 200,000 เม็ด 25 กิโลกรัม, กัญชา 80 กิโลกรัม อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์, คดีที่ 3 วันที่ 28 ก.ค. 2560 ไอซ์ 400 กิโลกรัม ที่อ.เมือง จ.ขอนแก่น, คดีที่ 4 วันที่ 2 ต.ค. 2561 จับกัญชา 458 กิโลกรัม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี และคดีที่ 5 เดือน พ.ค.2562 จับกัญชา 444 กิโลกรัม อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ที่จุดรับมอบยาเสพติด อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน