ส่งฝากขัง 3 วินจยย. ยกพวกถล่ม โดน 6 ข้อหาหนัก มือยิงหนุ่มเคอรี่ดับยังหนี จ่อหมายจับเกือบร้อยคน แฉสั่งซื้อกระบอกจากจีน เผยหากพบคนในคลิปมีความผิดเพิ่ม จะแจ้งข้อหาตามรายบุคคล

กรณีกลุ่มวินจยย.รับจ้างเถื่อน วินอุดมสุข 1-2 กับวินอุดมสุขรุ่งเรือง ที่อยู่ใกล้เคียงกันภายในซอยสุขุมวิท 103 แขวงและเขตบางนา กรุงเทพฯ ขัดแย้งกันเรื่องขยายพื้นที่วิ่งวินจยย.และแย่งผู้โดยสารกันเรื่อยมา จนเมื่อช่วงสายวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทั้ง 2 ฝ่ายต่างตะลุมบอนปะทะกันจนนายวีรวัฒน์ พุ่งครุฑ อายุ 20 ปี อาชีพส่งสินค้าเคอรี่และเป็นวินอยู่วินอุดมสุขฯ เสียชีวิต พร้อมยังมีผู้บาดเจ็บอีก 3 ราย ทางตำรวจจับกุมขยายผลผู้ต้องหาเพิ่มอีกหลายราย ท้องที่สน.บางนาตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

วินจยย. / ความคืบหน้าวันที่ 19 มิ.ย. ที่สน.บางนา เจ้าหน้าที่คุมตัวนายพันธ์ศักดิ์ พละทรัพย์ ส่งศาลจังหวัดพระโขนง ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว,

ร่วมกันพกพาอาวุธเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมนุม และมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่า จะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ นำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดพระโขนงโดยพนักงานสอบสวนจะยื่นคัดค้านการประกันตัว โดยใช้เหตุผลเช่นเดียวกับผู้ต้องหาชุดแรก และเตรียมนำตัวนายปิยะ พวงเกษร และนายมานพ มิ่งมงคล ส่งศาลจังหวัดพระโขนงในข้อหาเดียวกันอีกครั้ง

ขณะที่กลุ่มวินจยย. 8 คน ซึ่งเป็นกลุ่มวินที่ตั้งใหม่และได้เข้ามอบตัวกับตำรวจเมื่อวานนี้ เบื้องต้นทางพ.ต.อ.นคร ทองพานิช ผกก.สน.บางนา เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำทั้ง8คนแล้ว แต่ยังไม่พาตัวไปส่งฟ้องศาลในวันนี้ เนื่องจากยังต้องรอพิสูจน์เปรียบเทียบภาพคลิปเหตุการณ์ก่อนว่า ได้กระทำความผิดอื่นอีกหรือไม่

ส่วนวินรถจักรยานยนต์ที่เรียกมาให้ปากคำและทำบันทึกประวัติเมื่อวานนี้ ถือว่าเป็นการจัดเตรียมข้อมูล เพื่อรอนำไปเปรียบเทียบกับภาพในคลิปเหตุการณ์ ดูว่ามีใครร่วมก่อเหตุอย่างไร เข้าข่ายความผิดข้อหาใดบ้าง หากใครไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะถูกกันไว้เป็นพยานต่อไป ซึ่งขณะนี้เรียกทำประวัติจากกลุ่มวินจยย. ทั้ง 2 ฝ่ายไปแล้ว 50-60 คน

พ.ต.อ.นคร กล่าวว่า ส่วนวินอุดมสุขรุ่งเรือง หรือ อุดมสุข 2 หน้าธนาคารพานิชย์ของอีกฝ่ายนั้น ไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งขึ้นมา เพราะใช้พื้นที่จุดจอดสมาร์ทแท็กซี่ของกทม. เป็นที่ให้บริการ โดยตั้งขึ้นมาตัดหน้า วินของนายประมุข ซึ่งผลการประชุมร่วมระหว่างตำรวจ ทหาร สำนักงานเขตและกรมการขนส่งทางบก เมื่อวานที่ผ่านมานั้น มีมติให้สั่งปิดวินอุดมสุข 2 รวมถึงระงับไม่ให้รถแท็กซี่จอดรับส่งผู้โดยสารบริเวณดังกล่าวเด็ดขาด โดยทางสน.บางนาได้ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.) จราจร เพื่อป้องกันเหตุทะเลาะวิวาทซ้ำซ้อน และสอดส่องไม่ให้มีผู้ใช้เป็นจุดจอดรถรับส่งบริการอีกด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ตำรวจตรวจสอบวงจรปิดและคลิปในช่วงเกิดเหตุพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทางชุดสืบสวนนำวินจยย.ในจุดเกิดเหตุมาสอบปากคำ และให้ดูคลิปผู้ร่วมก่อเหตุเพื่อหาว่าเป็นใคร เมื่อพบชื่อสกุลจริงของผู้ร่วมก่อเหตุแล้วก็จะรวบรวมหลักฐาน เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดพระโขนงเพื่อออกหมายจับ คาดว่าคดีนี้มีผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมด 90 กว่าคน ซึ่งก็จะออกหมายจับทั้งหมด ในข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปและหากพบว่าบุคคลในคลิปคนใดมีความผิดเพิ่ม ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มตามรายบุคคลไป

โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่แบ่งผู้กระทำผิดเป็น 2 ฝ่าย คือ 1.ฝ่ายเตรียมการลงมือ ซึ่งจะถูกดำเนินคดีในหลายข้อหา เนื่องจากพบหลักฐานข้อมูลการสั่งซื้ออาวุธ เช่น กระบอง ที่สั่งซื้อออนไลน์นำเข้าจากจีน และการเตรียมอาวุธปืนไว้ก่อเหตุ 2.ฝ่ายตั้งรับ ซึ่งจะมีความผิดฐานก่อเหตุทะเลาะวิวาท หลังจากนี้จะมีใครเป็นตัวการสำคัญที่ต้องถูกออกหมายจับอีกหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับหลักฐานต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีนายประมุข วิเชียรดิลกกุล หัวหน้าวินจักรยานยนต์ และนายวันชัย มงคลเข็ม มือยิงนั้นพบว่าหลบหนีไปแล้ว โดยไม่มีแนวคิดจะมอบตัวแต่อย่างใด ซึ่งนายวันชัยนั้นหลังเกิดเหตุ 1 วันได้กลับที่พักก่อนเก็บข้าวของแล้วออกจากที่พักไป โดยไม่ได้บอกภรรยาว่าจะไปที่ไหน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างล่าตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายของวันนี้ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะเข้าร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี ก่อนพิจารณาดำเนินการติดตามผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ต่อไป

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่สน.บางนา พนักงานสอบสวน สน.บางนา นำตัวนายปิยะ พวงเกษร (เสื้อสีชมพู) และนายมานพ มิ่งมงคล (เสื้อสีเทา) ส่งศาลจังหวัดพระโขนง ฝากขังเป็นผัดแรก ในข้อหาข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว,

ร่วมกันพกพาอาวุธเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมนุม และมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองโดยผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน