กองปราบ รวบหนุ่มหัวใส โพสต์เฟซบุ๊ก ตุ๋นบริจาคเงิน ช่วยเด็กพิการ พบเหยื่อใจบุญหลงเชื่อจำนวนมาก เค้นสอบสารภาพอ้างต้องการเงินใช้ เพราะทะเลาะกับพ่อแม่ และหาเงินเล่นเกม
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 19 มิ.ย. ที่กองบังการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.4 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ต.จักรี กันธิยะ สว.กก.4 บก.ป. ร่วมกันแถลงการจับกุม นายกีรติ ศรีคำมี อายุ 20 ปี ชาวหนองบัวลำภู ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 807/2562 ลงวันที่ 4 มิ.ย. 2562 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ซึ่งจับกุมตัวได้บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 70 ม.12 ต.เก่ากลอย อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.แมน กล่าวว่า เมื่อประมาณปลายปี 2561 มีการเผยแพร่ข่าวสารของ นางกันยา พวงนาค อายุ 43 ปี ซึ่งมีลูกชาย อายุ 12 ปี เป็นผู้พิการซ้ำซ้อนและป่วยหนัก ต้องการความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญในการบริจาคเงินและสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น เพื่อนำมาดูแลรักษาลูกชาย ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูป และสื่อออนไลน์อื่น ๆ กระทั่งเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ลูกชายของนางกันยาได้เสียชีวิตลง จึงได้ปิดการรับบริจาคดังกล่าวทุกช่องทาง
พ.ต.อ.แมน กล่าวต่อว่า ปรากฏว่าพอมาถึงเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา นางกันยาพบว่ายังมีมิจฉาชีพฉวยโอกาสนำข้อมูลการขอความช่วยเหลือลูกชายไปแอบอ้างหลอกลวงเรี่ยไรรับบริจาคเงิน ตามเพจเฟซบุ๊กต่าง ๆ จนทำให้สังคมและเพื่อนบ้านต่างเข้าใจผิด จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่สภ.เมืองพะเยา พร้อมกับให้สื่อมวลชนต่าง ๆ ช่วยเผยแพร่กระจายข้อเท็จจริงให้สังคมเข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย จากนั้น พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. จึงสั่งการให้ตนเข้ามาทำการสืบสวนหาตัวคนร้าย
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ามีการโพสต์แอบอ้างเรียกขอเงินบริจาคจริง โดยมิจฉาชีพกลุ่มนี้จะใช้วิธีสร้างเพจเฟซบุ๊กขึ้นมาในชื่อว่า “ทีมช่วยเหลือ เด็กและผู้สูงอายุ” และ “ช่วยเหลือคนไทย ทั่วประเทศ” จากนั้น ก็จะนำข้อความดังกล่าว ที่เปิดรับบริจาคไปตามสื่อออนไลน์ต่าง ๆ มาแก้ไข โดยการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในส่วนของบัญชีธนาคาร และเลขบัญชีที่รับบริจาค มาเป็นบัญชีของตน ไปโพสต์ตามเพจเฟซบุ๊กกว่า 20 เพจ
นอกจากนี้ มิจฉาชีพดังกล่าวยังนำข้อมูลการบริจาครับเงินของเด็กพิการ หรือผู้ป่วยรายอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือ มาใช้เพื่อแอบอ้างหาผลประโยชน์ส่วนตัวอีกหลายครั้ง ซึ่งก็ทำให้มีผู้ที่ใจบุญหลงเชื่อ ยอมโอนเงินให้กับมิจฉาชีพกลุ่มนี้มากกว่า 1,000 ราย มูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ตรวจสอบที่ไปที่มาของบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว รวมถึงบัญชีธนาคารที่คนร้ายใช้รับโอนเงิน ก่อนสามารถรวบรวมหลักฐานและขอออกหมายจับคนร้ายในคดีได้ 2 ราย คือ นายกีรติ ผู้ต้องหารายนี้ และนายสุรศักดิ์ อนุอันต์ ที่สามารถหลบหนีไปได้
จากการสอบสวน นายกีรติ ให้การรับสารภาพว่า ตนได้ร่วมกับนายสุรศักดิ์ ผู้ต้องหาที่หลบหนี ซึ่งเป็นเพื่อนในหมู่บ้านเดียวกันก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยช่วงแรกที่ก่อเหตุนั้นเป็นเพียงทดลองทำกันเล่น ๆ ก็ไม่คิดว่าจะได้เงินจริง ๆ แต่พอเห็นว่า สามารถได้เงินจริง เพราะมีคนหลงเชื่อโอนเงินมาให้ทุกวัน ประกอบกับตนมีปัญหาทะเลาะกับพ่อแม่ จึงทำให้ไม่มีเงินใช้
นายกีรติ ให้การต่อว่า อีกส่วนหนึ่งก็คือต้องการเงินใช้สำหรับเล่นเกมส์ออนไลน์ด้วย จึงก่อเหตุดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องเกือบ 4 เดือน กระทั่งถูกจับกุม ภายหลังการสอบสวนจึงนำตัวส่งสภ.เมืองพะเยา ดำเนินคดี พร้อมกับขยายผลติดตามจับกุมนายสุรศักดิ์มาดำเนินคดีต่อไป
