พ่อแม่ ขุดศพลูก น้อยวัย 2 เดือน ส่งพิสูจน์ สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ คาใจลูกช็อกตาย หลังไปฉีควัคซีนที่รพ. หมอบอก ลูกสาวติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง

ขุดศพลูก / เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่วัดชีแวะ ต.งิ้วราย อ.เมือง ลพบุรี พ่อแม่และญาติๆ ของเด็กทารกวัย 2 เดือน ได้ขุดศพขึ้นมาใหม่ เพื่อนำส่งสถาบันนิติเวช พร้อมกับเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.ลพบุรี ขอให้นำร่างด.ญ.แก้วกัลยา หรือน้องออนิว ลูกสาว วัย 2 เดือน ส่งสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้แพทย์ตรวจชันสูตร จากกรณีที่ลูกมารักษาตัวที่ รพ.แห่งหนึ่งในจ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.62 และเสียชีวิตในวันที่ 7 มิ.ย.62 โดยแพทย์ระบุว่า ลูกสาวติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่วัดชีแวะ พบกับ นางสิเรียม เอี่ยมนาคา อายุ 46 ปี ผู้เป็นยาย นายรังสรรค์ สังข์วงษ์ อายุ 46 ปี ตา นายรวีโรจน์ รำพึงกิจ อายุ 21 ปี พ่อเด็ก และน.ส.อมรรัตน์ สังข์วงษ์ อายุ 23 ปี แม่ของน้องออนิว ทั้งหมดอยู่บ้านเลขที่ 48/1 หมู่ 4 ต.งิ้วราย อ.เมือง ลพบุรี ที่เพิ่งรับศพน้องออนิวกลับมาจากสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ หลังจากที่ขุดศพน้องออนิว ไปผ่าพิสูจน์เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา เพราะคาใจสาเหตุที่น้องออนิวไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก หยอดโปลิโอ ครั้งที่ 1 สำหรับเด็กแรกเกิด จนถึง 5 ขวบ ในเดือนที่ 2 เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่รพ.ดังกล่าว แล้วน้องมีอาการทรุด

จนยายพาไปพบแพทย์เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ก่อนที่จะเสียชีวิตลงอย่างสลด ทั้งที่ก่อนไปรพ.น้องมีอาการปกติ ร่าเริง แจ่มใส แต่มีไข้ และไอเล็กน้อย ตนเองและญาติติดใจในการรักษาว่า ทำไมไม่รอให้น้องหายจากอาการไข้เสียก่อน ถึงนัดฉีดวัคซีน ซึ่งทางพ่อและแม่ รวมถึงญาติและเพื่อนบ้าน ระบุว่า น้องออนิวยังเล็ก และภูมิคุ้มกันต่ำ คิดว่าวัคซีนน่าจะเป็นสาเหตุให้น้องเสียชีวิต

โดยแพทย์รพ.ระบุว่า น้องออนิวเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง และยังให้ภรรยาตนเซ็นชื่อสัญญาประนีประนอมยอมความระบุว่า “เมื่อผู้รับบริการที่ได้รับความเสียหายลงนามผูกพันในข้อสัญญาดังกล่าวแล้ว จะไม่นำเหตุดังกล่าวไปดำเนินคดีทางศาลได้อีกต่อไป” โดยได้จ่ายเงินมาจำนวน 10,000 บาท ซึ่งยิ่งทำให้ตนเองและครอบครัวเคลือบแคลงสงสัยว่า ทำไมต้องมีสัญญาประนีประนอมยอมความ ในช่วงที่ภรรยายังไม่มีสติ และยังอยู่ในอาการเศร้าโศก โดยที่ตนไม่ทราบเรื่อง

เหตุการณ์ดังกล่าว เฟซบุ๊กของ น.ส.อมรรัตน์ สังข์วงษ์ อายุ 23 ปี แม่ของน้องออนิว โพสต์ระบายความอัดอั้นตันใจถึงรพ. ระบุว่า “คอยดูนะ จะเอาเรืองให้ถึงที่สุด พูดมาได้ไง เด็กไอ มีน้ำมูก วัดไข้ได้ 37 บอกไม่มีไข้ ฉีดวัคซีนได้ สรุปอยู่มาวันหนึ่ง ปากเขียวเมือเท้าเริ่มแข็งเกร็ง จากที่เป็นอยู่กลายเป็นคูณ 2 ยังไงก็ต้องมีคนรับผิดชอบ ในการตายของลูกสาวกู ไม่มีที่ไหนเขาฉีดหรอกถ้าเด็กไม่สบาย เพิ่งเคยเห็นที่นี่แหละ ชิ… แพทย์ พยาบาลบางคนก็แนะนำดี ที่กล่าวมานี้ไม่ได้ว่าแพทย์พยาบาลทุกคนที่ดี #ขอคนละ 1 แชร์ ขอให้น้องไปสู้ภพภูมิที่ดี ไปเป็นนางฟ้าตัวน้อยนะออนิวของแม่ และ #พาแม่เขาไปเซ็นสัญญาทั้งๆ ที่เกิดอาการช็อกลูกเสียร้องให้อยู่คืออะไรคะ#เรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้นกับครอบครัวใครไม่มีวันเข้าใจหรอกคะ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการฝังร่างของน้องนั้น ในวันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีการตั้งบำเพ็ญกุศลศพน้องน้องออนิว จำนวน 3 คืน และฝังร่างน้องในไว้ในวันที่ 10 มิ.ย. เพื่อให้ครบ 1 ปี โดยคนเฒ่าคนแก่บอกว่าน้องอาการยังไม่ครบ 32 ให้เก็บร่างไว้ก่อน เกิดใหม่ชาติหน้าจะได้มีร่างกายสมประกอบ ครบ 32 ประการ ซึ่งตนและญาติ ยังคาใจ เพราะยังไม่มีการติดต่อจากแพทย์ที่รพ.ถึงการแสดงความรับผิดชอบ และการเจรจาถึงความเคลือบแคลงสงสัยของครอบครัว จึงขุดร่างน้องออนิว ส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ชันสูตรดังกล่าว ซึ่งยังต้องรอผลพิสูจน์ประมาณ 30 วัน

ผู้สื่อข่าวโทรประสานไปยังทางแพทย์ของรพ. โดยพญ.หทัยรัตน์ อัจจิมานนท์ รองผอ.ฝ่ายการแพทย์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. นางสิเรียม เอี่ยมนาคา ผู้เป็นยาย พาน้องออนิวมาฉีดวัคซีน โดยน้องมีอาการมีน้ำมูกใสๆ ไอเล็กน้อย ไม่มีไข้ รพ.วัดปรอทได้ 37 องศาเซลเซียส

ส่วนวันที่ 5 มิ.ย. จากปากคำของยายน้องมีอาการอาเจียน สำลักนม ซึมลง ถ่ายเหลวมีมูกปริมาณมาก วันที่ 6 มิ.ย. เวลาประมาณ 11.20 น. ยายพามารพ.ด้วยอาการหายใจเร็ว อกบุ๋ม มีเสมหะ ดูดนมและน้ำไม่ได้ ตัวเขียว ตัวลาย วัดปรอท 37 องศาเซลเซียส ชีพจร 178/นาที อัตราการหายใจ 56 ครั้ง/นาที น้องหยุดหายใจ จึงช่วยให้ฟื้นคืนชีพ 2 ครั้ง จนมีสัญญาณชีพจร จากนั้นต่อเครื่องช่วยหายใจ ส่งต่อเข้าหอผู้ป่วยเด็กวิกฤต โดยใช้เครื่องช่วยหายใจและให้ยากระตุ้น จนเวลา 00.45 น. ความดันตก หยุดหายใจครั้งที่ 3 และช่วยให้คืนชีพกลับขึ้นมาอีกครั้ง นานถึง 2 ชั่วโมง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ซึ่งในวันที่ 7 มิ.ย. เวลา 13.00 น. พ่อแม่มารับศพ และได้รับคำอธิบายถึงสาเหตุของการเสียชีวิตว่า มีการติดเชื้อในกระแสเลือด ร่วมกับสำลักนมก่อนพบแพทย์ ซึ่งพ่อและแม่รับทราบ และเข้าใจ ต่อมาแม่ของน้องกล่าวว่า ไม่มีเงินค่าทำศพ อยากให้รพ.ช่วยเหลือทางรพ.จึงพิจารณาว่า เห็นควรช่วยเหลือค่าจัดงานศพ จึงร่วมทำบุญเป็นเงิน 10,000 บาท พร้อมแม่ก็เซ็นชื่อในสัญญาประนีประนอม และนำศพกลับไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่วัดชีแวะ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ซึ่งข้อมูลการรักษาดังกล่าว ส่วนกลางศูนย์ควบคุมโรคจะมีรายละเอียดที่แน่ชัดอีกครั้ง ทางรองผอ.ก็พร้อมที่จะพูดคุยในทุกเรื่องที่ยังเคลือบแคลงใจ ขอให้ทางพ่อแม่และญาติติดต่อมาในเวลาราชการ ซึ่งตนก็ดีใจที่เอาลูกไปส่งพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อที่จะได้ผลของการพิสูจน์ที่แน่ชัด ซึ่งจะทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน