จับครอบครัวจอมตุ๋น หลอกเหยื่อ รับจดทะเบียนบริษัท นำเข้าเสื้อผ้า สูญเกือบ 2 ล้าน

จับครอบครัวจอมตุ๋น / วันที่ 21 มิ.ย. ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.อนุชา ศรีสาโรง รอง ผกก. พ.ต.ต.ฐิติวัส แซมเขียว สว.กก.5 บก.ป. พร้อมกำลัง

ร่วมกันจับกุมนายเฉลิมพล หรือเบ้ง สุรีย์วิริยะกาญจน์ อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 122/2562 ข้อหา “ฉ้อโกงและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย และปลอมและใช้เอกสารปลอม”

นางกาญจนาถ วงศ์แก้ว อายุ 46 ปี และนายปราการ เรืองรื่น อายุ 26 ปี ในข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ฉ้อโกงและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน

หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใด บุคคลหนึ่งและปลอมและใช้เอกสารปลอม” โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้ที่บ้านเลขที่ 22/111 ม.5 ต.บางสี ทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

พ.ต.อ.เนติ กล่าวว่า ก่อนหน้ามีนักธุรกิจขายเสื้อผ้ารายหนึ่ง เข้ามาร้องเรียนให้ตรวจสอบประวัติของนายเฉลิมพล ที่แนะนำตัวเองว่าเป็นอาจารย์สอนวิชาทำธุรกิจ ขายสินค้าออนไลน์ โดยได้มาแนะนำให้ผู้เสียหายจดทะเบียนบริษัท อ้างว่ารู้จักกับผู้ใหญ่ในกระทรวงพาณิชย์หลายคน

ซึ่งนายเฉลิมพลสามารถดำเนินการแทนผู้เสียหายได้เลย เพราะจะได้สะดวกต่อนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เนื่องจากผู้เสียหายทำธุรกิจเกี่ยวเสื้อผ้า โดยเป็นการขายปลีกอยู่ที่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่จังหวัดนครปฐม เมื่อผู้เสียหายได้คุยกับนายเฉลิมพลแล้ว เกิดความเชื่อถือเเละศรัทธา

เพราะผู้ต้องหาพูดจาลักษณะเป็นคนมีความรอบรู้ และท่าทางน่าเชื่อถือ ซี่งข้อมูลต่างๆ ที่พูดคุยกัน ผู้เสียหายได้ ตรวจสอบดูจากอินเตอร์เน็ตตลอด ก็พบว่าสิ่งที่นายเฉลิมพลพูดนั้นเป็นเรื่องจริง จึงตกลงที่จะทำตามคำแนะนำ

พ.ต.อ.เนติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้นายเฉลิมพลยังหลอกผู้เสียหายอีกว่า นายปราการ ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของเฉลิมพล นั้นเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ชื่อดัง กำลังเรียนอยู่ที่ประเทศอังกฤษ สามารถซื้อไอแพด ได้ในราคาถูกกว่าในประเทศไทย

ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และโอนเงินให้นายเฉลิมพลไปทำธุรกรรมต่างๆทั้งหมด 18 ครั้ง รวม เป็นเงิน 1,842,620 บาท โดยโอนไปยังบัญชีธนาคารของนายเฉลิมพลฯ ,นางกาญจนาถ เเละนายปราการ ต่อมาผู้เสียหาย เกิดสงสัยว่า นายเฉลิมพลจะไม่ดำเนินการตามที่จ่ายเงินไป

จึงลองตรวจสอบข้อมูลทางกูเกิ้ล ก็เลยทราบความจริงว่า นายเฉลิมพลนั้นเคยถูกกองปราบจับกุมคดีในฉ้อโกงมาก่อน ทำให้รู้ตัวว่าถูกหลอก จึงเข้ามาเเจ้งความที่กองปราบฯเพื่อดำเนินคดี ก่อนที่จับกุมตัวได้อีกครั้ง

จากการสอบสวนผู้ต้องทั้งสามให้การปฏิเสธ แต่ตรวจสอบประวัตินายเฉลิมพล พบว่าเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาถึง 21 คดี บางคดีก็เคยถูกจับกุมไปแล้ว บางคดีก็หมดอายุความ ภายหลังการสอบสวนจึงนำตัวส่ง สภ.เมืองนครปฐม ดำเนิคดีต่อไป

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน