ตามรวบ ลุงเหลิม ข่มขืนด.ญ.คาเพิงพัก หลังถูกพ่อแท้ๆ บังคับให้เพื่อนวัย 67 ขืนใจแลกกัญชา ตร.ตามรวบหลังหนีไปกบดานที่จ.อุทัยธานี เจ้าตัวรับมีสัมพันธ์กับลูกสาวคนโตจริง ไม่ได้ข่มขืน เผยมีแผนแต่งงานกันด้วย แต่มาถูกจับเสียก่อน
ลุงเหลิม / เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบก.ปคม. สั่งการให้ พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล ผกก.1บก.ปคม. พ.ต.ท.มนต์ชัย เพ็งเลิศ สว.กก.1บก.ปคม. นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายเฉลิม อายุ 67 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 601/2562 ลงวันที่ 26 พ.ค.2562 ความผิด “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม”
พ.ต.ท.มนต์ชัย กล่าวว่า พฤติการณ์จากกรณีปรากฏข่าวเมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา กรณีพ่อบังคับลูกวัย 13 ปีให้คนข่มขืนแลกกัญชา ซึ่งต่อมาตำรวจปคม.เข้าช่วยเหลือ เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี และเด็กหญิงบี (นามสมมุติ) น้องสาว อายุ 13 ปี จากเพิงพักชั่วคราวภายในชุมชนย่านพระราม 9 ซึ่งพักอาศัยอยู่กับพ่ออายุ 62 ปี และเพื่อนของพ่ออายุ 65 ปี โดยปคม.ช่วยเหลือเด็ก 2 คน เข้าสู่การคุ้มครองของเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก เด็กปลอดภัยแล้ว ส่วนพ่อของเด็กถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.วังทองหลาง จับกุมตัวดำเนินคดีในข้อหาเสพกัญชา
สว.กก.1บก.ปคม. กล่าวอีกว่า ต่อมาพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทางคดี ปรากฏพบความผิดเกี่ยวกับเพศ โดยนายเฉลิม หรือที่เด็กเรียกว่า ‘ลุงเหลิม’ ซึ่งพักอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นผู้กระทำชำเรา จึงขอหมายจับต่อศาลและศาลอนุมัติหมายจับ
จากการสืบสวนทราบว่าหลบหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ จ.อุทัยธานี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาและวางแผนเดินทางไปติดตามตัว ซึ่งสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณสถานที่ขนส่ง อ.เมือง จ.อุทัยธานี
นายเฉลิม ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนความผิดฐานอื่นๆ ยังไม่ปรากฏพยานหลักฐานเพิ่มเติมแต่อย่างใด เบื้องต้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ดำเนินคดี
จากการสอบสวนนายเฉลิม ให้การว่า เรื่องจริงไม่ได้เหมือนตามที่เป็นข่าว เพราะข้อเท็จจริงแล้วครอบครัวของเด็กผู้เสียหายมาขอพักอยู่ที่เพิงพักของตน โดยพ่อของเด็กก็เหมือนเป็นลูกจ้าง เพราะจ่ายค่าแรงช่วยงานให้ทุกวัน คือวันละ 100 บาท ซึ่งตามปกติพ่อของเด็กต้องเสพกัญชาทุกวัน อันมีผลมาจากสุขภาพของตัวเอง จึงใช้ให้ลูกสาวเป็นคนไปหาซื้อมาให้ ไม่ใช่เป็นการบังคับข่มขืน เพื่อแลกกับกัญชาแต่อย่างใด โดยภายหลังเป็นข่าวพ่อของเด็กก็ถูกดำเนินในคดีครอบครองกัญชาเท่านั้น ไม่ใช่คดีที่กล่าวหากันแต่อย่างใดทั้งสิ้น
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
นายเฉลิม ให้การต่อว่า ส่วนเรื่องข่มขืนนั้นตนยอมรับว่ามีความสัมพันธ์จริง แต่กับลูกสาวคนโตเท่านั้น และก็เป็นการคบหากันแบบเปิดเผย ทุกคนก็รับรู้ ไม่เคยมีเรื่องข่มขืนใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งก่อนถูกจับตนก็ยังมีแผนที่จะแต่งงานอยู่กินอย่างถูกต้องอีกด้วย แต่ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน
