สาวม.5 กินข้าวไม่ได้ โดนเพื่อนชาย เตะก้น ล้มหน้าแหก ตาหวิดบอดเย็บ 17 เข็ม!

เตะก้น / วันที่ 4 ก.ค. กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพหลานสาวซึ่งเป็นเด็กนักเรียนหญิง ชั้น ม.5 สวมเสื้อนักเรียนเปื้อนเลือดหลังได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลที่บริเวณใบหน้าและแขน ถูกเย็บไปมากถึง 17 เข็ม โดยระบุข้อมูลเบื้องต้นว่า หลานสาวได้รับบาดเจ็บ แต่ผู้ปกครองของคู่กรณีกลับระบุว่าเป็นเรื่องของเด็กเล่นกันเท่านั้น

ที่บ้านพักของผู้เสียหาย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้พบกับคุณแม่หนึ่ง (นามสมมุติ) และ น.ส.สอง น้อง ม.5 (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 ซึ่งเป็นห้องท็อป เด็กเรียนเก่งของโรงเรียนมัธยมชื่อดังในจ.ประจวบคีรีขันธ์

โดยพบว่า น.ส.สอง บาดแผลที่ใบหน้ายังคงบวมอักเสบ และแขนขวาข้างถนัดมีอาการบวมและตึง ไม่สามารถงอแขนได้ โดยบาดแผลทั้งหมด แพทย์ได้ทำการเย็บรวม 17 เข็ม ประกอบด้วย แก้มซ้าย 3 เข็ม ใต้คาง 5 เข็ม และที่แขนขวาอีก 9 เข็ม ซึ่งน้อง ม.5 ยังคงพูดลำบากเพราะยังเจ็บแผลที่แก้มอยู่

น.ส.สอง เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เรื่องเกิดเมื่อช่วงบ่ายเวลาประมาณ 14.30 น. ของวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงพักคาบเรียน ตนกำลังจะเดินไปหาน้องที่รู้จักกันที่ ห้อง ม.4/1 ซึ่งอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าว

เมื่อตนเดินไปถึง คู่กรณีซึ่งเป็นเพื่อนในห้องเรียนเดียวกันยืนอยู่บริเวณดังกล่าว จังหวะกำลังเดินผ่าน จู่ๆ คู่กรณีได้ยกเท้าขึ้นมาเตะก้นตนอย่างแรง ตนตกใจและโกรธมาก จึงต้องการจะเอาคืน จึงหันไปคว้ามือคู่กรณีเพื่อจะสู้ จนเกิดเหตุการณ์ดึงแขนกันไปมา จนตนหมดแรง

เป็นจังหวะที่คู่กรณียังมีแรงเหวี่ยงตน ทำให้ตนล้มศีรษะฟาดเข้ากับประตูห้องเรียนของน้อง ม.4 จนกระจกแตก และบาดเข้าที่หน้าและแขน มีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก นาทีนั้นทุกคนตกใจ ช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนก็มึนงงจากแรงกระแทก

สังเกตเห็นเพื่อนผู้ชายคู่กรณี มีอาการหยุดนิ่งเช่นกัน ก่อนที่จะเข้ามาช่วยพยุงตนไปนั่ง ได้ยินเสียงใกล้ๆว่า ไม่น่าทำแบบนี้เลย แต่ไม่มีคำขอโทษจากปากเพื่อน หลังเกิดเหตุคุณครูและเพื่อนคนอื่นมาช่วยกดแผลเพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้น

จากนั้นเรียกรถพยาบาลมารับไปส่งที่โรงพยาบาลเพื่อเย็บแผล จนถึงขณะนี้คู่กรณียังไม่ได้มาขอโทษต่อหน้า เพียงแค่ส่งข้อความมาขอโทษ และบอกเรื่องการบ้านที่คุณครูสั่งเหมือนกับเพื่อนคนอื่นที่มาบอกเรื่องเรียนเท่านั้น

ทั้งนี้ตนยืนยันว่า ก่อนเกิดเหตุไม่เคยทะเลาะกันกับเพื่อนคู่กรณี แต่เพื่อนมักเล่นรุนแรงกับเพื่อนคนอื่นรวมทั้งผู้หญิงด้วย กับตนก็เคยเล่นแรงๆ และตนเคยตอบโต้กลับไปบ้าง แต่ไม่เคยเตะก้นตน ครั้งนี้ถือว่าแรงมากจนตนโมโหต้องการจะสู้ และเอาคืนบ้าง กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว

สำหรับอาการบาดเจ็บนั้น ล่าสุดแผลที่แก้มเริ่มแห้งแต่ยังอ้าปากไม่ถนัด ส่วนแผลที่แขนซึ่งเป็นแผลขนาดใหญ่และเนื้อหายไปบางส่วนนั้น เวลาเปิดล้างแผลยังมีเลือดไหลออกบ้าง แต่ยังขยับแขนหรืองอแขนไม่ได้ แต่เริ่มกำนิ้วมือได้แล้วซึ่งช่วงแรกตนตกใจมากที่นิ้วมือขยับไม่ได้เพราะกลัวจะเขียนหนังสือไม่ได้อีก

ตั้งแต่เกิดเหตุผ่านไปเกือบ1สับดาห์แล้ว ตนต้องเสียการเรียน ต้องหยุดการเรียนไปแล้ว 4 วัน ช่วงวันสองวันแรก แผลปวดบวมอักเสบมาก กินอะไรไม่ได้เลย กินได้เพียงดื่มน้ำหวานเพื่อแก้หิว เวลากลางคืนก็นอนไม่หลับเพราะปวดแผลจนตื่นทั้งคืน

ตอนนี้ตนคิดถึงช็อกโกแลต ขนมโปรดอย่างมาก แต่ไม่สามารถกินได้ เพราะคุณหมอให้งด รวมถึงงดอาหารอีกหลายอย่างเพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น

ตนยอมรับว่า ยังรู้สึกโกรธเพื่อนอยู่ ที่ตนต้องมาเจ็บตัว ขาดเรียนไปหลายวันแล้ว และไม่รู้ว่าจะกลับไปเรียนได้อีกวันไหน และตนไม่อยากเป็นแผลเป็นที่หน้าหรือแขนจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ที่ผ่านมาตนตั้งใจเรียนหนังสืออย่างหนัก สับดาห์ละ 6 วัน และผลการเรียนดีอยู่ในเกณฑ์ที่ครอบครัวพอใจ

เพราะตนตั้งเป้าหมายไว้ว่า อนาคตอยากเรียนนิติศาสตร์เพื่อปลายทางความฝันอยากสอบเป็นผู้พิพากษาสูงสุดให้ได้ แม้จะยังโกรธเพื่อนอยู่แต่ตนก็พร้อมให้อภัยเพื่อน หากเพื่อนแสดงความรับผิดชอบและขอโทษตนต่อหน้าอย่างจริงใจ

ทางด้าน คุณแม่หนึ่ง (นามสมมุติ) มารดาน้อง ม.5 เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุผู้ปกครองของน้องคู่กรณี เสนอให้ความช่วยเหลือให้เงินจำนวน 5,000 บาท เพื่อขอให้จบเรื่อง แต่แม่ไม่รับเพราะมองว่า ลูกของตนต้องมาได้รับบาดเจ็บสาหัสในครั้งนี้ ต้องเย็บมากถึง 17 เข็ม เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นและเสี่ยงเสียโฉม

ลูกสาวตนเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้านเป็นความหวังของครอบครัว และกำลังจะมีอนาคตที่ดี หากพลาดไปอีกแค่นิดเดียว ลูกสาวอาจจะตาบอดหรือเสียชีวิต ซึ่งตนไม่อยากจะคิดและยังคงเสียใจที่เกิดเรื่องกับลูกของตน เท้าเป็นของต่ำและก้นเป็นของสงวนของผู้หญิง

ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องของเด็กเล่นกันแต่ถือเป็นพฤติกรรมความรุนแรงของเพื่อนผู้ชายที่ใช้ความรุนแรงกับเพื่อนผู้หญิง หากน้องผู้ชายปล่อยให้ลูกสาวเดินผ่านไปหารุ่นน้องตามกปกติเรื่องร้ายแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น

บาดแผลทางร่างกายที่ลูกสาวเจ็บปวดนี้ กระทบกระเทือนต่อจิตใจของคนเป็นพ่อแม่และคนในครอบครัวอย่างมาก นอนหลับไม่สนิทเลยสักวัน

สิ่งที่แม่หวัง ไม่ได้อยากดำเนินคดีกับคู่กรณีซึ่งเป็นเพื่อนลูก เพราะเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อแม่ คงไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เมื่อเกิดแล้วก็ควรรับผิดชอบอย่างเต็มที่ หากกลับกันคนถูกกระทำคือลูกของคุณก็คงอยากได้ความรับผิดชอบและคำขอโทษเช่นเดียวกัน

แม่พร้อมให้อภัยหากคู่กรณีออกมารับผิดและรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างสมเหตุสมผล จนกว่าลูกแม่จะหายเป็นปกติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน