ที่ทำเพราะมีเหตุผล!! โรงเรียนเอกชนดังแจง ไม่ได้ห้ามพกกระติก-บังคับขายน้ำ เผยเหตุผลห้ามนำเข้าห้องเรียน
เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ จ.นครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวรายงานถึง กรณีมีการโพสต์เรื่องราวของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ของจังหวัดลงในกระทู้พันทิป ระบุถึงโรงเรียนเอกชน ใน จ.นครสวรรค์ สั่งห้ามนักเรียนในสังกัด พกน้ำจากที่อื่นเข้ามาดื่มในโรงเรียนอย่างเด็ดขาด
อ่าน อ้างฝึกวินัย เด็กแฉ รร.ห้ามพกน้ำมาดื่มเอง ต้องซื้อจาก รร.ให้ดื่มได้แค่ช่วงพักเท่านั้น!
โดยบังคับต้องซื้อน้ำดื่มภายในโรงเรียนเท่านั้น รวมถึงยังมีการบังคับให้นักเรียนดื่มน้ำเป็นเวลาในช่วงพักเรียน ไม่ให้นำน้ำขึ้นไปดื่มบนห้องเรียนเพื่อความเป็นระเบียบวินัย จนมีชาวโซเชียลนำกระทู้ไปแชร์เผยแพร่กันอย่างแพร่หลาย พร้อมกับมีการแสดงความเห็นเชิงตั้งคำถามว่า เป็นการละเมิดสิทธิ์เกินไปหรือไม่ ซึ่งก็มีสื่อนำเรื่องราวนี้ไปเผยแพร่ยังโลกออนไลน์จนมีผู้คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
จากการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว พบว่า โรงเรียนที่ถูกร้องเรียน เป็นโรงเรียนเอกชนขนาดใหญ่ เปิดเผยว่า เรื่องราวที่นำไปโพสต์เป็นกระทู้ น่าจะเกิดจากการสื่อสารกันไม่เข้าใจระหว่างโรงเรียนและนักเรียน แต่ยืนยันว่า ทางโรงเรียนไม่เคยห้ามไม่ให้นักเรียนนำน้ำดื่ม ทั้งจากบรรจุใส่กระติกหรือขวดน้ำดื่มที่ซื้อจากที่อื่นเข้ามาในโรงเรียนตามที่ปรากฏเป็นข่าว
“ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า ทางโรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการ Zero Waste School ตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งเป็นโครงการลดการใช้ภาชนะพลาสติก เพื่อควบคุมขยะภายในโรงเรียน จึงได้มีการขอความร่วมมือกับนักเรียนในสังกัดทุกคน ร่วมกันลดการใช้ภาชนะพลาสติก ทั้งถุง รวมถึงขวดน้ำ แต่ก็ไม่เคยมีการสั่งห้ามอย่างเด็ดขาดแต่อย่างใด เพียงแค่ขอความร่วมมือเท่านั้น และทางโรงเรียนได้มีการแนะนำให้นักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 พกกระติกน้ำมาโรงเรียนแทนจะดีกว่า เพื่อช่วยกันลดขยะจากพลาสติก
โดยไม่เคยมีการบังคับว่าจะต้องซื้อกระติกน้ำของทางโรงเรียน และไม่เคยบังคับว่าจะต้องซื้อน้ำดื่มกับทางโรงเรียนด้วย เพราะทุกชั้นเรียน จะมีเครื่องกรองน้ำและเครื่องทำน้ำเย็นไว้บริการนักเรียนตามตึกทุกชั้น เพื่อให้นักเรียนนำกระติกน้ำมารองน้ำเพื่อนำไปดื่มในห้องเรียนได้
แต่ก็ขอเป็นช่วงเวลาที่อาจารย์สอนหมดคาบ เพื่อสร้างความเป็นระเบียบวินัยให้กับตัวนักเรียนเอง เนื่องจากหากดื่มน้ำไปในระหว่างที่อาจารย์สอนจะเป็นมารยาทที่ไม่ดีงาม และอาจนักเรียนจะไม่ตั้งใจฟังในระหว่างการเรียนการสอน”
อาจารย์รายนี้ ยังเปิดเผยอีกว่า สิ่งที่มีการตั้งกระทู้เอาไปลงบนโลกออนไลน์จนเกิดกระแสข่าวนั้นไม่เป็นความจริง ไม่ว่าจะเป็นการบังคับให้นักเรียนต้องซื้อน้ำดื่มและกระติกน้ำของโรงเรียนนั้นไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง จึงตั้งข้อสงสัยว่าการโพสน์นี้น่าจะมาจากเด็กนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาของโรงเรียน เนื่องจากอาจจะเข้าใจผิดอะไรบางอย่างที่ทางโรงเรียนไม่อนุญาตให้นักเรียนนำกระติกน้ำเข้าไปดื่มภายในห้องเรียนอย่างเด็ดขาด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันปัญหายาเสพติดภายในโรงเรียน
หลังจากมีการพบว่า ขณะนี้ในหมู่เยาวชนนักเรียนทั่วไป มีการนำยาแก้ปวดมาผสมกับเครื่องดื่มต่างๆ แล้วดื่มกันคล้ายกับน้ำกระท่อม ซึ่งสามารถตรวจจับได้ยากมาก หากสังเกตไม่ดีก็จะดูไม่ออกว่าเครื่องดื่มที่พกเข้าห้องเรียนเหล่านี้คือเครื่องดื่มที่ทำไปผสมยาประเภทดังกล่าวด้วยหรือไม่ โดยจะสังเกตได้ก็ต่อเมื่อเด็กมีอาการหลับคล้ายคนมึนเมา ทางโรงเรียนจึงได้มีการป้องกันในเรื่องนี้ก่อน แต่ก็ไม่พบว่ามีนักเรียนในสังกัดมีพฤติกรรมในเรื่องนี้แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้สำรวจดูรอบๆ บริเวณโรงเรียน พบว่า หลายจุดมีการตั้งเครื่องกรองน้ำและเครื่องทำน้ำเย็นเอาไว้ไม่ต่ำกว่า 10 แห่ง ทั้งบริเวณรอบตึกอาคารเรียน และบนอาคารเรียนทุกชั้น รวมถึงภายในห้องพยาบาลจะมีน้ำดื่มไว้บริการให้กับนักเรียนที่ป่วยและต้องดื่มน้ำบ่อยๆ ด้วย ส่วนภายในห้องเรียนแต่ละห้อง จะพบว่า มีกระติกน้ำของนักเรียนหลากหลายรูปแบบตั้งอยู่ภายในจุดเก็บของแทบทุกห้อง
ยกเว้นเพียงห้องเรียนของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมเท่านั้น ที่ไม่อนุญาตให้นำกระติกน้ำเข้าไปภายในห้องเรียนอย่างเด็ดขาด แต่นักเรียนทุกคนก็จะมีแก้วส่วนตัวเพื่อนำไปรองน้ำดื่มที่เครื่องทำน้ำเย็นตามที่ตั้งไว้ในแต่ละชั้น แต่ต้องเป็นช่วงเวลาหลังเลิกเรียนในแต่ละคาบวิชาเท่านั้น