พ่อแม่สุดช้ำ! ลูกสาว-ลูกชายถูกรุ่นพี่แสร้งทำดีก่อน รับน้องโหด นั่งให้ยุงกัด-ทำร้ายร่างกาย แถมขู่ซ้ำจนลูกหวาดผวา ไม่อยากไปเรียน จี้มหาวิทยาลัยจัดการเด็ดขาด

วันที่ 10 ก.ค. ผู้ปกครองของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในพื้นที่อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ได้รวมตัวกันร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า ลูกของพวกตนได้เข้าศึกษาที่คณะหนึ่งของมหาวิทยาลัยดังกล่าว และถูกกลุ่มรุ่นพี่คณะนี้ใช้วิธีการ รับน้องโหด ด้วยการทำร้ายร่างกายจนเนื้อตัวเขียวช้ำทั้งแขนและขา นอกจากนี้ ยังมีการข่มขู่ต่าง ๆ นานา จนทำให้ลูกหวาดผวาไม่กล้าไปเรียน

นางบี (นามสมมติ) ผู้ปกครองรายหนึ่ง กล่าวว่า ลูกของตนได้มาเข้ารับการศึกษาชั้นปีที่ 1 ที่คณะหนึ่งของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ โดยตอนแรกลูกเล่าให้ฟังว่า รุ่นพี่ดูแลดี จึงทำให้ตนวางใจ แต่ต่อมาเห็นลูกเงียบ ๆ ไม่ค่อยร่าเริงเหมือนก่อน จึงสอบถามว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ แต่ลูกไม่ยอมเล่าให้ฟัง จึงพยายามถามเป็นประจำ

“กระทั่ง ลูกเล่าให้ฟังว่า โดนรุ่นพี่ที่คณะทำร้ายร่างกาย ซึ่งมีการเรียกออกมาทำกิจกรรมช่วงยามวิกาล เวลาประมาณ 23.00 น. โดยให้ไปที่บริเวณนอกมหาลัย เป็นบ้านหลังหนึ่ง โดยให้น้อง ๆ ในคณะกว่า 24 คน ทำกิจกรรมแปลก ๆ ทั้งให้กลิ้ง เอาน้ำราดตัว นั่งให้ยุงกัด และที่สุดโหด คือ การทำร้ายร่างกาย โดยรุ่นพี่ผู้ชายเตะผู้ชาย รุ่นพี่ผู้หญิงเตะผู้หญิง ซึ่งลูกของแม่โดนเตะบริเวณขาอ่อน เขียวช้ำเป็นวงกว้าง พอเห็นแผลที่ลูกโดน ก็ตกใจ ร้องไห้เลย เพราะเราเลี้ยงลูกมา ไม่เคยตี อบรมสั่งสอนด้วยเหตุผล พอมาเจอกิจกรรมรับน้องแบบนี้ รับไม่ได้” แม่ กล่าว

นางบี กล่าวต่อว่า ลูกยังเล่าด้วยว่า นอกจากการทำร้ายร่างการ รุ่นพี่ยังมีการขู่บังคับว่าห้ามบอกใคร โดยให้เหตุผลว่า เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างพี่และน้อง ฝึกความอดทน แข็งแกร่ง เผื่อเวลาไปทำงานจะได้ฝึกความอดทนแข็งแรง ซึ่งมันไม่ใช่เหตุผลที่ต้องมาใช้กำลังกันแบบนี้ ลูกใคร ใครก็รัก ไม่รู้ว่ารุ่นพี่คิดอะไรอยู่ จึงอยากให้ทางมหาวิทยาลัยดำจัดการอย่างถึงที่สุด ซึ่งตนจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับรุ่นพี่ที่กระทำด้วย เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก เพราะตนเชื่อว่า น่าจะเกิดมานานแล้ว แต่อาจไม่มีใครกล้าพูด กล้าออกมาเปิดเผยเรื่องราว เพราะต้องยอมรับความเชื่อที่ถูกส่งต่อกันมาแบบผิด ๆ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อนด้าน น้องซี (นามสมมติ) นักศึกษา เปิดเผยว่า ตนได้เข้ามาเรียนชั้นปีที่ 1 ตอนแรกก็ดีใจที่รุ่นพี่ดูแล พยายามบอกกับรุ่นน้องว่า ให้อยู่หอพัก เพราะจะได้ใกล้มหาวิทยาลัย และพี่ ๆ จะได้ดูแลได้เวลาที่รุ่นน้องมีปัญหาอะไรก็ให้บอก ซึ่งตอนแรกยังเล่าให้แม่ฟังว่ารุ่นพี่ใจดี มีกิจกรรมรับน้อง ซึ่งตนเข้าใจและก็ยินดีปฏิบัติ แต่ต่อมาเริ่มมีการรวมกลุ่ม ทำเฟซบุ๊กกลุ่ม และเรียกให้รวมตัวกันภายใน 5 นาที เมื่อถึงเวลานัดหมายใครมาช้าหรือไม่มาก็จะถูกลงโทษ และให้เดินทางออกไปนอกสถานที่ช่วงกลางดึก

“ห่างออกจากมหาลัยเป็นบ้านหลังหนึ่ง จากนั้นรุ่นพี่จำนวนมาก ก็ให้รุ่นน้องกลิ้งตามพื้น เอาน้ำราด และปล่อยนั่งให้ยุงกัด บางคนแพ้ยุงก็ผื่นขึ้นเต็มไปหมด จากนั้นก็ตะโกนเสียงดัง พูดจาข่มขู่ หยาบคาย และ ลงมือเตะทำร้ายร่างกาย โดยผู้หญิงเตะผู้หญิง ผู้ชายเตะผู้ชาย ตอนที่โดนตกใจมาก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง เพื่อนก็โดน หากเราไม่ไป เพื่อนก็ต้องโดนแทนเรา รู้สึกงงมาก ที่มีกิจกรรมแบบนี้ พอเราเริ่มไม่อยากไป อยากออกจากระบบรับน้องแบบนี้ รุ่นพี่ก็จะขู่จนเราเกิดหวาดกลัว ผวาไปเลย เหมือนสภาพจิตใจย่ำแย่ ถูกกดดัน เพราะกว่าจะกลับหอพัก ก็ตี1-ตี2” น้องซี กล่าว

น้องซี กล่าวต่อว่า ตื่นเช้ามาก็ต้องทำความสะอาดคณะ พอเข้าเรียนก็ไม่ได้พักผ่อนเพียงพอ ส่งผลให้เรียนไม่รู้เรื่อง จึงตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้แม่ฟังและเอาแผลให้ดู ซึ่งแม่เสียใจร้องไห้เลย เราก็พยายามอดทนแล้ว แต่เมื่อมานั่งทบทวนว่า เรามาเรียนหนังสือศึกษาหาความรู้จากอาจารย์ และมามีความสัมพันธ์มิตรภาพที่ดีระหว่างรุ่นพี่และเพื่อน ซึ่งมันมีวิธีอื่นมากมายในการรับน้องอย่างสร้างสรรค์

น้องซี เหยื่อรุ่นพี่ รับน้องโหด เล่าถึงการถูกทำร้ายร่างกาย

น้องซี เหยื่อรุ่นพี่ รับน้องโหด เล่าถึงการถูกทำร้ายร่างกาย

“ทำไมต้องมาลงไม้ลงมือกันแบบนี้ มันเจ็บทั้งกายและใจ ส่วนสอบถามเพื่อนคณะอื่นในมหาลัยก็ไม่มีการรับน้องแบบนี้ มีเพียงคณะหนูเท่านั้น ซึ่งไม่เข้าใจว่าการส่งต่อพฤติกรรมแบบนี้ทำไปเพื่ออะไร ตอนนี้หนูก็ไม่อยากเรียนแล้ว เพราะถูกข่มขู่จากรุ่นพี่ กดดันสภาพจิตใจ ซึ่งกำลังปรึกษากับผู้ปกครองว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป” น้องซี กล่าว

ขณะที่ น้องยู (นามสมมติ) นักศึกษาอีกราย เปิดเผยว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการรับน้องแบบนี้ เพราะมีความตั้งใจในการมาศึกษาหาความรู้ เพื่อเรียนและออกไปทำงานอย่างมีศักยภาพ แต่รุ่นพี่มีวิธีการรับน้องในรูปแบบที่ไม่สร้างสรรค์ มันเกินไป ใช้ความรุนแรงมากไป ซึ่งตนไม่เห็นด้วย และโดนมาตั้งแต่ปี 1 จนขณะนี้เรียนอยู่ปี 2 แล้วก็ยังโดนอยู่

“ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่รุ่นพี่ทำ และส่งต่อมาให้รุ่นน้องทำต่อไปอีก เพื่อให้กลายเป็นการสืบทอด มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง บางคนก็อดทนโดนต่อ เพราะรุ่นพี่บอกว่า สิ่งที่ทำแบบนี้คือการฝึกให้รักกัน อดทน แข็งแกร่ง แต่ส่วนตัวคิดว่า ไม่เกี่ยว คณะที่เรียนเป็นคณะที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ และออกไปทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ควรมาถูกทำร้ายร่างกายในวิธีหลากหลายรูปแบบ หรือถูกกดดันแบบนี้ จนบางทีกลายเป็นการหวาดผวา ส่งผลต่อสภาพจิตใจ ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอแบบนี้ พอผู้ปกครองทราบก็เป็นห่วงมาก และไม่อยากให้เรียนที่นี่แล้ว เพราะล่าสุดก็มีการถูกข่มขู่ทำร้ายร่างกาย เบื้องต้นได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.สามชุก แล้ว” น้องยู กล่าว

ส่วน นายเอ (นามสมมุติ) ผู้ปกครองอีกราย กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องก็รู้สึกว่า ทำไมถึงมีกิจกรรมรับน้องแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาก็มีข่าวคราวถึงกรณีการรับน้องแบบไม่สร้างสรรค์เป็นตัวอย่างเยอะแยะ แต่ทำไมรุ่นพี่ยังกล้าทำอีก ตนไม่เข้าใจ มีการไปรับน้องนอกสถานที่ และมีพฤติกรรมสุดโหด ด้วยการเตะ จนร่างกายบอบช้ำ เป็นกิจกรรมไม่สร้างสรรค์ จึงวอนให้ทางมหาวิทยาลัยเร่งตรวจสอบสอบสวนถึงเรื่องราวดังกล่าว เพื่อจะได้หาแนวทางหรือมาตราการในการแก้ไขปัญหานี้อย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่รุ่นนี้เท่านั้น เพราะหากไม่ดำเนินการ ก็จะเกิดขึ้นอีกไม่รู้จักจบสิ้น

นายเอ กล่าวต่อว่า วันนี้อาจยังไม่มีใครเป็นอะไรถึงแก่ความตาย แต่ถ้าวันหนึ่งเกิดขึ้นหละ ใครจะรับผิดชอบ เพราะนี่คือสถานศึกษา นักศึกษาต้องประพฤติตามกฎระเบียบของมหาวิทยาลัย ไม่ใช่ดำเนินการนอกกรอบ และริดทอนสิทธิเสรีภาพคนอื่น เพราะหากใครไม่เข้าระบบก็จะเป็นแกะดำ หรือโดนข่มขู่จากรุ่นพี่ แล้วน้องจะเรียนแบบมีความสุขได้อย่างไร หากรุ่นพี่มีพฤติกรรมแบบนี้ อยากให้เลิกเถอะ มันมีวิธีอื่นที่สร้างความรัก ความสามัคคี และทำประโยชน์ให้สังคมอีกมากมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน