สาวโดนโรคจิต ขยำก้นระบม ในโบสถ์ โร่แจ้งตร. ถูกเจ้าอาวาส ใส่ร้าย แต่งโป๊เข้าวัด

จากกรณีเหตุหญิงสาวรายหนึ่งถูกชายโรคจิตขยำก้น ภายในโบสถ์ วัดศรีสว่างวงศ์หรือวัดเกาะเสือ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยภาพวงจรปิดสามารถจับภาพขณะเกิดเหตุเอาไว้ได้ พร้อมเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.หาดใหญ่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตามจับกุมคนร้าย ต่อมา พระครูปลัดภูวนัย สุเมธโส เจ้าอาวาสวัด ออกมาระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับทางวัด แต่มีการเอ่ยชื่อวัดซึ่งอาจทำให้ ทางวัดเสียหาย โดยหญิงสาวคนดังกล่าวมาไหว้พระทำบุญที่วัดเป็นประจำ บางครั้งจะแต่งกายไม่เหมาะสม นุ่งน้อยห่มน้อย และมีการว่ากล่าวตักเตือนไป

ขณะเดียวกัน ในโลกโซเชียล ยังมีการแชร์ภาพชองหญิงสาวผู้เสียหาย สวมชุดสีชมพู ขาสั้น ขณะกำลังนั่งไหว้พระอยู่ในโบสถ์และมีการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา จนหญิงสาวผู้เสียหาย ออกมาตอบโต้ว่า เรื่องดังกล่าวเพียงแค่อยากเตือนภัยสังคม และให้เจ้าหน้าที่ติดตรามจับกุมคนร้าย ไม่คิดว่า จะกลายเป็นเรื่องที่ตนตกเป็นจำเลยของสังคมเพราะนุ่งชุดขาสั้น ซึ่งวันเกิดเหตุก็แต่งตัวปกติไม่ได้สวมใส่ชุดที่ล่อแหลมแต่อย่างใด ตามที่เสนอไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว วันที่ 11 ก.ค. ที่สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หญฺิงสาวผู้เสียหาย เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ พระครูปลัดภูวนัย สุเมธโส เจ้าอาวาสวัดศรีสว่างวงศ์ และเพจข่าวท้องถิ่นใน อ.หาดใหญ่ ที่นำบทสัมภาษณ์เจ้าอาวาสไปลงในลักษณะใส่ร้ายและหมิ่นประมาท

หญิงสาว กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ตนต้องการเตือนภัยสังคม ให้ตำรวจจับกุมชายโรคจิตที่ก่อเหตุขยำก้นเธอในวัด เพื่อไม่ให้ไปก่อนเหตุกับลูกหลานใครอีก และไม่เคยพูดจาให้ร้ายวัดเกาะเสือและวัดก็ไม่ได้ผิดอะไร หรือเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ เพียงแค่เหตุเกิดที่วัดเกาะเสือเท่านั้น

“เจ้าอาวาสนำภาพขณะตนนุ่งสั้นมาโพสต์และ ให้สัมภาษณ์ในลักษณะใส่ร้ายตนว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนุ่งสั้นมาวัด ทำให้เป็นสาเหตุให้ถูกขยำก้น และเคยตักเตือนตนหลายครั้ง ตนยืนยันว่าไม่เคยมีเจ้าอาวาสหรือพระองค์ไหนในวัดมาเตือนและ ก็ไม่เคยมีใครพูดคุยหรือยุ่งเกี่ยวกับพระ เพียงแค่มาสวดมนต์ขอพระในโบสถ์เท่านั้น”

ตนกลายเป็นจำเลยสังคม ทำให้วัดเสียหายและถูกเจ้าอาวาสตำหนิ แทนที่จะมาช่วยกันจับตัวคนร้ายแต่กลับมาโทษเธอคนเดียว ทั้งที่เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับวัดหรือพระในวัดเลย ส่วนเพจข่าวท้องถิ่น ที่นำบทสัมภาษณ์เจ้าอาวาสไปลงจนตนเองกลายเป็นฝ่ายผิด และตกเป็นจำเลยสังคมทั้งๆที่เป็นผู้ถูกกระทำ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความอีกครั้ง เพื่อให้ดำเนินกับทั้งเจ้าอาวาสวัดเกาะเสือและเพจที่เสนอข่าวบิดเบือน จนทำให้เธอเสียหาย ซึ่งเข้าข่ายความผิดหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และพรบ.คอมพิวเตอร์ด้วย

หญิงสาว ยังบอกอีกว่า ตนเพียงแค่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง เพราะเป็นผู้ถูกกระทำและนำเรื่องที่เป็นภัยสังคมออกมาเตือน ไม่ได้จะหาเรื่องกับพระหรือทำให้วัดเสียหาย แต่กลับกลายเป็นว่าตนถูกพระจับผิด แทนที่จะมาช่วยกันแก้ปัญหาสังคม จับโจรโรคจิตเพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุกับใครอีก

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน