พ่อแม่เหยื่อแพรวา มีลูกสาวคนเดียว เรียนพยาบาลหวังดูแลครอบครัว ลั่นดูถูกเกินไป

วันที่ 17 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่บ้านพักของนายสะโอด ชิมกระโทก อายุ 64 ปี และนางปิยะวรรณ ชิมกระโทก อายุ 61 ปี สองสามีภรรยาอาชีพข้าราชการครูเกษียณ อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 13 ต.ห้วยหิน อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของ น.ส.จันจิรา ชิมกระโทก หรือน้องป้าย อายุ 22 ปี (ตอนเกิดเหตุ) ขณะเรียนอยู่คณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ พบว่าสองสามีอยู่กันตามลำพัง 2 คน

นางปิยะวรรณ แม่น้องป้าย กล่าวว่า มีความน้อยใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เกิดเหตุ ที่น้องแพรวา โพสต์ข้อความต่างๆ จนโลกออนไลน์ต่างวิจารณ์กันอย่างหนักในขณะนั้น หลังเกิดเหตุ ทางครอบครัวก็สู้เพื่อความยุติธรรม โดยตั้งแต่เกิดเหตุผ่านไปถึง 2 ปี มีเพียงญาติของน้องแพรวา โทรติดต่อมาเพียงครั้งเดียว แล้วก็เงียบหายไปจนถึงขณะนี้ ถือว่าไร้น้ำใจ

หากย้อนไปถึงตอนนั้นอีกประมาณเดือนเศษ ลูกสาวก็จะเรียนจบถึงตอนนี้คงจะมีงานทำไปแล้ว ขณะที่คนก่อเหตุกลับไม่มีความรู้สึกอะไร ทั้งที่ศาลตัดสินจนคดีสิ้นสุดไปแล้ว จึงอยากจะฝากถึงครอบครัวคุณแพรวา ว่าครอบครัวคุณไม่ได้สูญเสียอะไร แต่ครอบครัวเราสูญเสีย ควรจะเห็นใจกลุ่มผู้สูญเสียบ้าง ในฐานะที่ครอบครัวคุณแพรวา เป็นคนมีฐานะ ไม่อยากให้คนทั้งประเทศดูถูกตระกูลอันสูงส่งของพวกคุณ

เงินทองต่างๆ ครอบครัวพอมีอยู่มีกิน ไม่ได้หวังอะไรขนาดนั้น แต่ดูไปแล้วดูเหมือนเขาจะดูถูกเราเกินไป ว่าเราแค่นี้จะไปสู้อะไรกับเขาทำให้มันยืดเยื้อมาถึงขนาดนี้ คุณไม่ได้สูญเสียอะไรเลย

นางปิยะวรรณ แม่น้องป้าย ยังกล่าวด้วยว่า ตนกับสามีมีลูกด้วยกัน 3 คน น้องป้าย เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวในครอบครัว ส่วนพี่ชาย 2 คน ได้เรียนจบมีงานทำกันหมดแล้ว ซึ่งหากน้อยป้ายยังอยู่ก็จะอายุได้ 31 ปี และอาจจะได้มาอยู่ดูแลพ่อแม่ตามความฝันของน้อยป้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน