ชื่นชม 2 นักศึกษาสาว เก็บกระเป๋าเงินภายในมีเงินสดและของมีค่ารวมกว่า 4 หมื่นบาท นำแจ้งตำรวจตามหาเจ้าของ ขณะเจ้าของกระเป๋ากล่าวชื่นชมในความมีน้ำใจของนักศึกษา เผยหากไม่ได้เงินคืนเดือดร้อนมาก
เมื่อวันที่ 27 มี.ค. นางประพิน ช่วยเชิด อายุ 60 ปี แม่ค้าขายของชำรถเข็นในศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา ตนเข้าไปทำธุระส่วนตัวที่ห้องน้ำหญิงชั้น 1 ศาลากลาง แต่ด้วยความเร่งรีบออกจากห้องน้ำทำให้ลืมกระเป๋าสะพายไว้ในห้องน้ำดังกล่าว กระทั่งมีตำรวจ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โทรมาหาว่ามีคนเก็บกระเป๋าได้เป็นนักศึกษาสาว และนำกระเป๋ามามอบให้ตำรวจเพื่อตามหาเจ้าของ
“หลังวางสายจึงนึกได้ว่ากระเป๋าสะพานซึ่งมีทั้งกระเป๋าเงิน และทรัพย์สินอื่นๆ รวมมูลค่าประมาณ 40,000 บาท ลืมไว้ในห้องน้ำศาลากลางจังหวัด ตนเองจึงไปที่ สภ.เมือง พบผู้เก็บกระเป๋าทั้ง 2 คน เป็นนักศึกษาสาวฝึกงานนั่นเอง คือ น.ส.กัลยา คุ้มพิทักษ์ หรือ น้องผึ้ง และ น.ส.ศิรินันท์ ขาวเขียว หรือน้องแพรว นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
นางประพิน ช่วยเชิด กล่าวด้วยความตื้นตันใจและแสดงความขอบคุณ 2 นักศึกษาสาว ที่เป็นคนดีเก็บกระเป๋าสะพายของตนไว้ให้ ซึ่งในกระเป๋ามีทุกสิ่งทุกอย่างครบ หากเงินจำนวนนี้หายไปครอบครัวต้องเดือนร้อนเป็นอย่างมาก เพราะเป็นเงินทุนในการทำมาหากิน ใช้ซื้อของชำมาขายมีรายได้ในแต่ละวันมาจุนเจือครอบครัว หลังจากนั้นตนได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับ 2 นักศึกษาสาว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจเพราะถือว่าเป็นคนดีของสังคม
ด้าน น.ส.กัลยา คุ้มพิทักษ์ และ น.ส.ศิรินันท์ ขาวเขียว กล่าวว่า ฝึกงานอยู่ที่สำนักงานสถิติจังหวัด วันที่ 24 มี.ค. ตนทั้ง 2 คนไปเข้าห้องน้ำหญิงชั้น 1 ศาลากลางหลังใหม่ พอเปิดประตูห้องน้ำห้องที่ 2 พบกระเป๋าแบบสะพายวางอยู่บนฝาชักโครก จึงหยิบขึ้นมาดูพบว่าในกระเป๋ามีทั้งเงินสด และบัตรเติมเงินโทรศัพท์อีกหลายสิบใบ จึงแจ้งกับพี่ ๆ ที่สำนักงานสถิติจังหวัดก่อนจะนำกระเป๋าไปมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อประกาศหาเจ้าของ
“ตอนพบกระเป๋าสะพายและมีเงินหลายหมื่นบาทตนตกใจมาก คิดว่าเจ้าของกระเป๋าคงเดือดร้อนแน่ๆ ที่ทำกระเป๋าหายและไม่คิดจะเอาเป็นของตัวเอง จึงรีบนำกระเป๋าพร้อมเงินไปมอบให้ตำรวจ เพราะพ่อแม่รวมทั้งมหาวิทยาลัยฯ สอนอยู่ตลอดว่าให้เป็นคนดีของสังคม รู้จักเกื้อกูล แบ่งปัน และช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ที่สำคัญไม่ให้เอาของคนอื่นมาเป็นของเราเอง ให้เรานึกอยู่เสมอว่าเจ้าของกำลังเดือดร้อนอยู่” 2 นักศึกษากล่าว
