เสียทั้งเงิน-เสียทั้งตัว จับหนุ่มสาวเปิดเฟซตุ๋น ฝากทำงาน กฟภ. เหยื่อหลงเชื่อสูญเป็นหมื่น จับแก๊งไนจีเรียหลอกสาวส่งของมาให้ แต่ต้องโอนค่าภาษี
ฝากทำงาน / เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจริญวิชย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4,พล.ต.ต.ฉลอง ภาคย์ภิญโญ รอง ผบช.ภ.4 และ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผบก.สส.ภ.4 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม 1.นายธเนศ ศรีพิบูลย์ อายุ 48 ปี ชาวต.เสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช 2.นางวาทินี กรองทอง อายุ 49 ปี ชาวต.อีปัน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี และ 3.นางกชกร โอนัวราห์ อายุ 27 ปี ชาว ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พร้อมของกลางสมุดบัญชีธนาคาร และบัตรกดเงินสดเอทีเอ็มจำนวนมาก หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.3 บก.สส.ภ.4 จบกุมตัวได้ ขณะหลบหนีการจับกุมในพื้นที่จังหวัดทางภาคใต้
พล.ต.ท.สุรชัย กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 ยู่ในเครือข่ายแก๊งไนจีเรีย ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามพฤติกรรมมาอย่างต่อเนื่อง หลังพบว่าหลอกผู้เสียหายในพื้นที่ จ.อุดรธานี โดยมีตัวการใหญ่ที่ยังคงหลบหนีและศาลอนุมัติหมายจับตัวแล้ว 2 คน ประกอบด้วย นายจอห์น โอคิวไอฟอร์ อักวู สัญชาติไนจีเรีย และ นายอูก๊อกชูคิว จีโอฟราย โอโฟมา สัญชาติไนจีเรีย
ทั้งนี้คดีดังกล่าวหลังมีผู้เสียหายที่เป็นสาวประเภทสอง แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานีว่า ถูกชาวต่างชาติที่รู้จักกันผ่านอินสตาแกรมในชื่อ Mr.Cheong Xao ซึ่งอ้างว่าเป็นชาวมาเลเซียที่ทำงานอยู่ที่สหรัฐอเมริกา โดยพูดคุยกันนานกว่า 4 สัปดาห์
จากนั้นผ่านชายอ้างว่าส่งสิ่งของมาให้เป็นสินค้าแบรนด์เนมมาให้ผ่านบริษัทรับส่งสินค้าชื่อดัง แต่ผู้เสียหายต้องชำระภาษีค่าสแกนพัสดุและค่าระวางพัสดุเอง ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินจำนวน 117,000 บาท ไปให้ตามหมายเลขบัญชีที่กลุ่มคนร้ายระบุ แต่พอโอนเงินไปให้แล้ว ก็ไม่สามารถติดต่อได้ และเมื่อตรวจสอบจึงรู้ว่าถูกหลอก
“ตำรวจจึงแกะรอยจากหมายเลขบัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินไปให้ จนทราบว่าเป็นบัญชีของนายธเนศ จึงสืบสวนสวนจนพบตัวก่อนที่จะซัดทอดว่า นางวาทินี เป็นคนกดเงิน และนำเงินไปฝากให้กับ 2 บัญชี คือของนางกชกร และนายอูก๊อกชูคิว ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มขบวนการดังกล่าวนี้ ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วนานกว่า 1 ปี มีเงินหมุนเวียนในบัญชีไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท โดยคาดว่าน่าจะมีผู้เสียหายหลงเชื่อและถูกหลอกจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามจับกุมชาวไนจีเรียที่เป็นตัวการใหญ่มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งขณะนี้ตำรวจทราบแน่ชัดแล้วว่าพักอาศัยอยู่ที่ใดในประเทศไทย” พล.ต.ท.สุรชัย กล่าว
ผบช.ภ.4 กล่าวต่อว่า ในการแถลงข่าวดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.3 ยังคงสามารถจับกุมตัวนายทรงวุฒิ หมื่นรัตน์ อายุ 26 ปี ชาว ต.วังทอง อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู และน.ส.วิลัยวรรณ ดีสังข์ อายุ 37 ปี ชาวอ.เมือง จ.เลย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ภายในหอพักตรงข้ามกับสถาบันการศึกษาชื่อดังแห่งนึ่งใน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พร้อมของกลางเงินสด, สมุดบัญชีธนาคาร และบัตรกดเงินสดหลายรายการ
การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความว่าถูกนายทรงวุฒิ ที่ใช้เฟซบุ๊กในชื่อว่า “A bird Bunsuk” แอบอ้างว่าสามารถฝากคนเข้าทำงานที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม จนมีคนหลงเชื่อติดต่อผ่านเฟซบุ๊กดังกล่าวจำนวนมาก โดยในการแอบอ้างนั้นผู้ต้องหาระบุว่า จะต้องเสียเงินหลักพันจนถึงหลักหมื่นตามแต่ละตำแหน่ง โดยมีผู้หลงเชื่อโอนเงินให้จำนวนมาก แต่ก็ถูกผู้ต้องหาปิดเฟซบุ๊กและไม่สามารถติดต่อได้
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
“คดีนี้พบว่าผู้เสียหายนั้นนอกจากจะเสียเงินตามที่หลงเชื่อแล้วบางรายก็เสียตัวด้วย เพราะล้วนอยากได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษา แต่ไม่ยอมตรวจสอบที่มาที่ไปหรือตรวจสอบข้อเท็จจริงในด้านต่างๆ และจากการตรวจสอบบัญชีพบว่าผู้เสียหายที่ถูกหลอกนั้น จะต้องโอนเงินเข้าบัญชีของนายทรงวุฒิ และน.ส.วิลัยวรรณ ก่อนที่ทั้ง 2 จะกดเงินสดออกมาเพื่อนำมาใช้จ่ายและเที่ยวเตร่ เนื่องจากไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่านายทรงวุฒินั้นเคยถูกจับที่จ.ขอนแก่น ในคดีร่วมกันฉ้อโกงในพฤติกรรมดังกล่าวมาแล้วเมื่อปี 2557 และเพิ่งจะพ้นโทษได้เพียง 4 ปี ก็มาก่อเหตุดังกล่าวอีก และเมื่อตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 นั้นมีหมายจับใน 4 พื้นที่ซึ่งตำรวจแต่ละพื้นที่ได้ทำเรื่องมาเพื่อขออายัดตัวแล้ว”
