เด้ง 5 ตำรวจ พ้นสภ.พนมไพร เซ่นรีดค่าเครื่องดื่มรถบรรทุก ตั้งกรรมการสอบสวน หากผิดจริงเอาผิดอาญา-วินัย ยันให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

จากกรณีสื่อออนไลน์เสนอข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.พนมไพร ขอค่าเครื่องดื่มชูกำลัง 100 บาท จากผู้ขับขี่รถบรรทุกโคกระบือ พื้นที่ สภ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา บริเวณถนนสายยโสธร-พนมไพร อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด โดยมีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรเป็นผู้ควบคุม เบื้องต้นพบมีผู้ขับขี่รถบรรทุกรายหนึ่งขับผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจ และพูดคุยลักษณะขอค่าเครื่องดื่มชูกำลังจากผู้ขับขี่ และส่งเงินให้เจ้าหน้าที่ 60 บาท ก่อนจะขับรถออกไป นั้น

เด้ง 5 ตำรวจ / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 26 ก.ค. พล.ต.ต.สมชาย นุ่มโต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัทพ์กับผู้สื่อข่าวว่า กรณีดังกล่าวตนจึงออกคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ 1013/2562 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการ ด้วยมีเหตุผลความจำเป็นเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการ และเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในการปฏิบัติราชการของ ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด

จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ประกอบกับระเบียบสำนักงานตตำรวจแห่งชาติว่า ด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2552 ข้อ 6(1) ข้อ 8(1) จึงให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด

ดังนี้ 1.พ.ต.อ.สมชัย นิลจันทร์ ผู้กำกับการ สภ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด 2.พ.ต.ท.ดาบทอง อุภัยพรม รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สภ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด 3.พ.ต.ท.เสถียรภูมิ ศรสุทธิ์ สารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด 4.ร.ต.อ.อุดร นูสีหา รองสารวัตรจราจจร สภ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด 5.ด.ต.ปัญญา สารรักษ์ ผู้บังคับหมู่ (หน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม) สภ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.เอก พิษณุ วัตถุ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ร้อยเอ็ด เป็นผู้ควบคุมกำกับดูแล สั่ง ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2562

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ทั้งนี้ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.อานนท์ นามประเสริฐ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นหัวหน้าชุดตรวจสอบข้อเท็จจริงรวบรวมพยานหลักฐาน โดยหากผลการตรวจสอบพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำผิดจริง ก็จะดำเนินการทางอาญาและวินัยตามขั้นตอนของกฎหมาย อย่างเด็ดขาดต่อไป แต่อย่างไรก็ตามก็จะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน