จับคนขับรถหื่น ชักปืนจี้สาวในลานจอดรถห้างดัง บังคับเข้าโรงแรม หวังขืนใจ เหยื่อใช้ไหวพริบหนีได้ คนร้ายตกใจรีบขับรถผู้เสียหายหนีไปจอดทิ้งไว้ในปั๊ม ก่อนย้อนกลับมาที่ทำงาน ตำรวจดักรออยู่แล้ว รวบตัวได้ทันควัน หวิดถูกญาติประชาทัณฑ์กลางโรงพัก

จับคนขับรถหื่น วันที่ 31 ก.ค. พ.ต.ท.นพดล ช่างเรือง รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งจากพนักงานโรงแรมฮาร์ทอิน ถนนศรีนครินทร์ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ว่ามีหญิงสาวถูกคนร้ายเป็นชายรูปร่างอ้วนใส่เสื้อสีฟ้าลายทางขาว ไว้หนวดเครา ใช้อาวุธปืนจี้บังคับหญิงสาวให้ขับรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีขาว เข้ามาเปิดห้องพักที่โรงแรม แต่หญิงได้หนีออกจากรถมาได้ ส่วนคนร้ายขับรถเก๋งของผู้เสียหายหลบหนีออกไปทางถนนศรีนครินทร์ และไม่ทราบทิศทางที่หลบหนี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินทางเข้าตรวจสอบที่โรงแรมดังกล่าว

ที่โรงแรมพบ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ผู้เสียหาย ทำงานอยู่ที่บริษัทเครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่ง นั่งรอเจ้าหน้าที่อยู่ด้วยอาการตกใจ ก่อนเล่าว่า ตนทำงานเป็นหัวหน้าสายขายเครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถเก๋งคันดังกล่าวเข้าไปจอดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เขตบางนา กทม. เนื่องจากได้นัดลูกค้าเอาไว้ ระหว่างที่ตนนั่งแต่งหน้าอยู่ในรถได้มีคนร้ายเป็นชายรูปร่างอ้วน เดินเข้ามาใช้อาวุธปืนแบบแม็กกาซีนสีดำ จี้บังคับให้ตนขับรถพาออกจากห้าง โดยคนร้ายนั่งเบาะหลังข้างขวาและใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้ตนขับรถมาตามถนนศรีนครินทร์ ก่อนจะให้เลี้ยวเข้าไปในโรงแรมเฟิร์สอินน์

แต่พอขับมาถึงโรงแรมดังกล่าวพบว่าโรงแรมปิดให้บริการไปแล้วกลายเป็นโรงแรมร้าง คนร้ายใช้ปืนจี้บังคับให้ตนขับรถวนออกมาแล้วให้เข้าไปในโรงแรมฮาร์ทอิน ซึ่งมีลักษณะคล้ายโรงแรมม่านรูด

เมื่อตนขับรถมาถึงโรงแรมพนักงานได้เปิดม่านให้ คนร้ายให้ตนขับรถเข้าไปจอดที่หน้าห้อง ตนพยายามตั้งสติและรู้ว่าหากขับเอาด้านหน้ารถเข้าไป ตนก็ไม่มีโอกาสที่จะหนี จึงได้ถอยหลังรถเข้าไปจอดโดยแกล้งชนโต๊ะชนเก้าอี้ที่วางอยู่เพื่อให้พนักงานโรงแรมเห็นความผิดปกติ สบโอกาสจึงเปิดประตูวิ่งหนีออกมาขอความช่วยเหลือจากพนักงานโรงแรม ส่วนคนร้ายเห็นท่าไม่ดีได้ปีนข้ามเบาะนั่งมาขับรถเก๋งของตนหลบหนีไป ก่อนที่พนักงานโรงแรมจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจ

หลังทราบข้อมูลเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายในโรงแรมดังกล่าว ซึ่งบันทึกใบหน้าของคนร้ายเอาไว้ได้อย่างชัดเจน เสื้อผ้าที่คนร้ายสวมใส่เป็นชุดฟอร์มของบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ภายในอาคารเดอะเนชั่น ถนนบางนา-ตราด หลักกิโลเมตรที่ 4 เขตบางนา กทม. จึงแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกนำกำลังไปซุ่มสังเกตการณ์อยู่ที่ลานจอดรถของอาคารเดอะเนชั่น ส่วนชุดที่สองออกตระเวนหารถเก๋งของผู้เสียหายที่คาดว่าคนร้ายน่าจะนำไปจอดทิ้งที่ใดที่หนึ่ง จนกระทั่งพบว่าคนร้ายได้นำรถเก๋งไปจอดทิ้งไว้ในปั๊มน้ำมันเอสโซ่ สาขาถนนศรีนครินทร์ ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนที่คนร้ายจะนั่งรถแท็กซี่ออกไป

กระทั่งเวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่ไปซุ่มสังเกตการณ์อยู่ที่ลานจอดรถข้างอาคารเดอะเนชั่น พบเห็นคนร้ายกำลังลงจากรถแท็กซี่ จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมตัวเอาไว้ พร้อมด้วยกระเป๋าสะพายหนังสีดำที่คนร้ายสะพายอยู่ ตรวจค้นในกระเป๋าพบอาวุธปืนแบบแม็กกาซีนขนาด 11 ม.ม. ซึ่งเป็นปืนบีบีกัน 1 กระบอก คุมตัวกลับมาสอบสวนที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ และระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังคุมตัวผู้ก่อเหตุขึ้นบนโรงพัก ได้ถูกญาติของผู้เสียหายที่มารออยู่เข้ารุมประชาทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ต้องรีบคุมตัวขึ้นไปสอบสวนที่ชั้นสอง และห้ามญาติผู้เสียหายติดตามมา

จากการสอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุชื่อ นายฐากูล อินทร์รุ่ง อายุ 47 ปี เป็นพนักงานขับรถผู้บริหารของบริษัทแห่งหนึ่งที่อยู่ภายในอาคารเดอะเนชั่น โดย นายฐากูล ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้นำรถของผู้บริหารเข้าไปตรวจเช็คที่ศูนย์บีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งตั้งอยู่ติดกับห้างดังกล่าว ระหว่างที่ช่างเช็ครถอยู่ตนจึงมาเดินเล่นที่ห้างดังกล่าวเพื่อฆ่าเวลา ขณะที่เดินอยู่ในลานจอดรถชั้นที่ 1 พบเห็นผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงสาวหน้าตาดี เปิดประตูรถทิ้งไว้และนั่งแต่งหน้าอยู่ในรถ

ตนจึงเกิดอารมณ์ก่อนหยิบปืนบีบีกันที่อยู่ในกระเป๋าสะพายออกมาและตรงเข้าจี้บังคับให้หญิงสาวคนดังกล่าวขับรถพาออกจากห้างและมุ่งหน้าเข้าโรงแรม แต่ยังไม่ทันทำอะไรหญิงคนดังกล่าวได้เปิดประตูกระโดดหนีออกจากรถไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานโรงแรม ด้วยความตกใจตนจึงได้ขับรถของผู้เสียหายหลบหนีออกมาและนำไปจอดทิ้งในปั๊มน้ำมัน ก่อนที่จะนั่งแท็กซี่กลับมาที่ทำงาน จนถูกจับกุมตัวได้ ตนยอมรับที่ทำไปเพราะเกิดอารมณ์ชั่ววูบจริงๆ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 3 ข้อกล่าวหาคือ กักขังหน่วยเหนี่ยว, บังคับข่มขืนใจให้ผู้อื่นตกใจกลัว และข้อหาชิงทรัพย์ ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุส่งพนักงานสอบสวน สน.บางนา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน