เที่ยวฟรีวันแม่ ที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จ.เชียงใหม่

องค์การสวนพฤกษศาสตร์ เปิดเที่ยวฟรีวันแม่ ที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จ.เชียงใหม่ ตื่นตากับ Canopy Walks เส้นทางเดินชมธรรมชาติเหนือเรือนยอดไม้ที่ยาวที่สุดในไทย กลุ่มอาคารเรือนกระจกเฉลิมพระเกียรติที่ใหญ่ที่สุดในไทย และพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ

เมื่อวันที่ 8 ส.ค. นายรณรงค์ เส็งเอี่ยม ผอ.องค์การสวนพฤกษศาสตร์ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง องค์การสวนพฤกษศาสตร์ ได้เปิดให้ประชาชนเข้าชมสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ฟรีในวันที่ 12 สิงหาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น.

สำหรับจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจในสวนพฤกษศาสตร์ฯ มีมากมายหลายส่วน อาทิ Canopy Walks เส้นทางเดินชมธรรมชาติเหนือเรือนยอดไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยระยะทางกว่า 500เมตร และที่ระดับความสูงเหนือพื้นดินกว่า 20เมตร คือ ทัศนียภาพที่สวยงามของทิวยอดไม้ในแบบพาโนราม่า

Canopy Walks เส้นทางเดินชมธรรมชาติเหนือเรือนยอดไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

กลุ่มอาคารเรือนกระจกเฉลิมพระเกียรติ (Glasshouse Complex) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 เมตร เป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงพรรณไม้ที่มีความโดดเด่น พรรณไม้หายากและใกล้สูญพันธุ์ จากหลากหลายระบบนิเวศ จัดแสดงไว้ในโรงเรือนให้คล้ายคลึงกับลักษณะที่พืชขึ้นอยู่ตามธรรมชาติให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี

เรือนป่าดิบชื้น (Tropical Rainforests) เป็นโรงเรือนที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มอาคารเรือนกระจก จัดแสดงสภาพป่าและพันธุ์ไม้ในป่าดิบชื้น พืชเฉพาะถิ่นและพืชหายากทางภาคใต้

​ ​ เรือนไม้น้ำ (Water Plants) ภายในมีการจัดแสดงไม้น้ำ ทั้งพันธุ์บัวของไทย และจากต่างประเทศ อาทิ บัวสัตตบุษย์ บัวสัตตบงกช บัวมังคลอุบล บัวกระด้ง บัวมีหนามที่มีลักษณะใบใหญ่ที่สุดในโลก และบัวจงกลนี บัวพันธุ์ไทยแท้ ที่มีบันทึกว่ามีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย

เรือนกล้วยไม้และเฟิน (Orchids and Ferns) ภายในมีการจัดแสดงกล้วยไม้และเฟิน โดยจัดปลูกกล้วยไม้ไทยและกล้วยไม้ลูกผสมตลอดทั้งปี เช่น ว่านเพชรหึงหรือว่านหางช้างกล้วยไม้ที่มี ลำต้นใหญ่ที่สุดในโลก มีการจัดภูมิทัศน์เลียนแบบธรรมชาติ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมกับบรรยากาศที่เย็นสบายภายในโรงเรือนนี้

​เรือนพืชทนแล้ง (Arid Plants) เป็นความมหัศจรรย์ของพืชที่มีการปรับตัวให้สามารถ อยู่ในสภาพแห้งแล้งได้ ประกอบด้วยพืชกลุ่มกระบองเพชร พืชอวบน้ำ ด้วยลักษณะของพืชทนแล้งที่มีรูปร่างแปลกตา ดอกกระบองเพชรหลากหลายสีสัน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่รักการถ่ายภาพใช้เวลาอยู่ภายในเรือนนี้เป็นเวลานาน เพื่อเก็บภาพประทับใจ

​​เรือนพืชกินแมลง (Carnivorous Plants) จัดแสดงพืชกินแมลง พืชที่มีการปรับตัว ให้อยู่รอด โดยมีการเปลี่ยนแปลงส่วนของใบ เพื่อดักจับแมลง อาทิ หม้อข้าวหม้อแกงลิง พืชกินแมลงที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

​​เรือนพืชสมุนไพร (Medicinal plants) จัดแสดงพืชสมุนไพรไทย กว่า 150 ชนิด มีป้ายสื่อความหมายบอกชื่อของสมุนไพรและบอกสรรพคุณของพืชสมุนไพรชนิดนั้นๆ อาทิ ฟ้าทะลายโจร หญ้าหนวดแมว หนุมานนั่งแทน ย่านาง เล็บครุฑ จิงจูฉ่ายเป็นต้น

เรือนสับปะรดสี (Bromeliads) รวบรวมพืชกลุ่มสับปะรดสีหลากหลายสายพันธุ์ สับปะรดสีเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา เป็นพืชกลุ่มเดียวกับสับปะรด แต่ไม่ค่อยติดผล ลักษณะของใบมีลวดลายและมีสีสันที่สวยงาม จึงนิยมปลูกเป็นพืชประดับสำหรับจัดตกแต่งสวน ขยายพันธุ์ได้ง่ายโดยการแยกหน่อ

นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ (Natural Science Museum) เป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรและนิทรรศการหมุนเวียนให้ความรู้ทางด้านพืช ธรรมชาติวิทยา ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม

ภายในพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติได้เก็บรวบรวมสะสมวัตถุที่มีค่าและนำมาจัดแสดงให้อยู่ในสภาพที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด เพื่อการศึกษาทางธรรมชาติวิทยาในเรื่องราวที่เกี่ยวกับโลกธรณีวิทยา สิ่งมีชีวิตโดยเฉพาะพืชและสิ่งแวดล้อม ให้แก่เยาวชนและบุคคลทั่วไป ที่จะได้ชมและเรียนรู้ด้วยตนเองในลักษณะของการศึกษานอกห้องเรียน

​​ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ งานประชาสัมพันธ์ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ โทร.053-841009 และ Facebook: สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์