โจรโป๊ะแตก! ปล้นร้านทอง เซ่อซ่าทิ้งซองกระดาษเขียนที่อยู่ไว้ ถูกตร.ตามรวบคาบ้าน อ้างหาเงินจ่ายค่างวดรถจักรยานยนต์-ค่านมลูก
กรณีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 25-30 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีทึบ สามหมวกลายทหารแบบมีที่ปิดหู ปิดปาก ใช้รถจักรยานยนต์สีน้ำเงิน-ขาว ไม่ทราบยี่ห้อ-ทะเบียน เข้าชิงทรัพย์ร้านทองในตลาดวังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว เป็นสร้อยทองคำน้ำหนัก 2 บาท แต่ไม่ได้ทรัพย์สินไป เหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา แล้วขี่รถหลบหนี โดยใช้เส้นทางถ.สายสระแก้ว-จันทบุรี มุ่งหน้า อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ก่อนที่ช่วงกลางดึกจะสามารถจับกุมตัวได้
ปล้นร้านทอง / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 9 ส.ค. พ.ต.อ.ชัยธนันท์ จิรปิยเเศรษฐ์ ผกก.สภ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว นำตัว นายนพรัตน์ หรือ มอส ส้มทับไทย อายุ 21 ปี ชาวอ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณร้านทอง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงแล้วเสร็จ
โดยภายในร้านทองดังกล่าว พบมีลูกกรงกั้นไว้โดยรอบเคาน์เตอร์ คนร้ายจึงไม่สามารถเข้าไปชิงทองภายในได้ เมื่อคนร้ายหลบหนีไป เจ้าของร้านจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ และแกะรอยเส้นทางการหลบหนีจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งกล้องวงจรปิดบริเวณเทศบาลตำบลวังสมบูรณ์ สามารถบันทึกภาพรถจักรยานยนต์และภาพคนร้ายสวมหมวกชาวไร่ได้ จึงประสานท้องที่ใกล้เคียงเพื่อสกัดจับ กระทั่งมีรายงานว่า ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ที่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
จากการสอบถามนายนพรัตน์ ส้มทับไทย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ต้องการเงินที่จะไปจ่ายค่างวดรถจักรยานยนต์ที่ตนได้ค้างชำระมาหลายงวดแล้ว และเป็นค่านมลูกด้วย
พ.ต.อ.ชัยธนันท์ จิรปิยเเศรษฐ์ ผกก.สภ.วังสมบูรณ์ กล่าวว่า พฤติกรรมของนายนพรัตน์ พยายามที่จะเข้ามาเพื่อขอดูทอง และแจ้งความประสงค์จะซื้อทองคำ น้ำหนักประมาณ 2 บาท โดยพยายามที่จะให้เจ้าของร้านทอง ซึ่งเป็นสามี-ภรรยากัน ส่งทองคำให้หลายครั้ง แต่เจ้าของร้านบอกให้ส่งเงินมาให้ก่อน คนร้ายจึงส่งซองกระดาษไปให้ บอกว่าเงินอยู่ภายในนั้น เมื่อสามีของเจ้าของร้านทองพยายามจะแกะซองกระดาษดูเงิน คนร้ายก็รีบวิ่งออกจากร้านและขับรถหลบหนีไป หลังได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ออกติดตามทันที และตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่หลบหนี
อีกทั้งตรวจสอบซองกระดาษสีน้ำตาลที่คนร้ายบอกเจ้าของร้านว่า มีเงินอยู่ภายใน แต่เป็นเงินปลอม โดยที่หน้าซองกระดาษมีชื่อและที่อยู่ชัดเจน จึงขออนุมัติหมายศาลสระแก้ว พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ไปตามที่อยู่ และพบตัวนายนพรัตน์ผู้ต้องหาอยู่ในบ้าน จึงนำตัวมาสอบปากคำ และให้การรับสารภาพดังกล่าว จึงแจ้งข้อหาว่ากระทำความผิดฐาน “พยายามวิ่งราวทรัพย์”
ด้านนางวิภาวณี กับนายเกษมสุข สินธุชัย เจ้าของร้านทอง กล่าวว่า ร้านของตนเมื่อ 20 ปีที่แล้วนั้น เคยถูกคนร้าย 3 คน เข้ามาปล้นที่ร้านได้ทองไปประมาณ 100 กว่าบาท ครั้งนั้นคนร้ายยิงเจ้าของรถยนต์เสียชีวิตและใช้หลบหนีไป แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็สามารถจับตัวคนร้ายได้ ตนยังจำเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ดี จึงคอยระวังมาตลอด
“มาครั้งนี้คนร้ายเข้ามาขอดูสร้อยหนัก 2 บาท เดี๋ยวเส้นนั้น เส้นนี้ แต่ผมก็หยิบให้ทีละเส้น และไม่ยอมปล่อยสร้อยให้คนร้ายถือ พอตกลงก็ยื่นซองกระดาษ และบอกให้ผมปล่อยสร้อย พร้อมบอกว่าเงินอยู่ในนั้น พอเปิดดูก็พบว่าเป็นเงินปลอม ผมจึงดึงสร้อยทองกลับมา คนร้ายจึงวิ่งออกไปขึ้นรถจยย.หลบหนีไป ผมตัวสั่นไปหมด เพราะยังจำเหตุการณ์ที่เคยโดนปล้นได้ดี” นายเกษมสุข กล่าว
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ชิงทรัพย์ครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์พยายามปล้นและชิงทรัพย์ซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ในพื้นที่ของอำเภอวังสมบูรณ์ ที่หลังจากมีการควงปืนลูกซองยาวเข้าปล้นปั๊มน้ำมันสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น เมื่อปลายเดือนเม.ย.62 ปล้นปั๊มปตท.สาขาวังใหม่ ปลายเดือนพ.ค.62 และปล้นโลตัสเอ็กซ์เพลส สาขาวังใหม่ เมื่อปลายเดือนมิ.ย.62 ทั้ง 3 เหตุ ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ กระทั่งเวลาผ่านไปได้เพียง 1 เดือนเศษ ก็เกิดเหตุขึ้นอีก แต่ครั้งนี้สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้
