มือปืนเครียดจัด ลั่นเจ้าอาวาสไม่ใช่พระ เปิดปมแค้น พบเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก!
จากกรณีเกิดเหตุสลดยิงเจ้าอาวาสเสียชีวิตขณะที่กำลังนำสวดมนต์ ต่อหน้าชาวบ้านประมาณ 60 คน ศาลาวัด วัดทุ่งไก่ดัก ต.เนินทราย อ.เมือง จ.ตราด นั้น
ความคืบหน้าเพิ่มเติม รายงานข่าวแจ้งว่า คนร้ายกับเจ้าอาวาสเป็นเพื่อนกันมาสมัยเด็ก และปัจจุบันก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ซึ่งคนร้ายมักจะมาช่วยงานวัดและช่วยงานเจ้าอาวาสมาตลอด ซึ่งรับรู้เรื่องราวภายในวัดเป็นอย่างดี คนร้ายอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุเข้าไปช่วยงานในครัว และโดนเจ้าอาวาสต่อว่าเหยียดหยามเรื่องส่วนตัว ก่อนที่จะกลับพร้อมปืน ซุกไว้ในถุงใส่นม ทำทีว่ามาถวายแล้วจ่อยิงไป 3 นัดจนเจ้าอาวาสมรณภาพ
ด้าน แม่ครัววัดสุวรรณภักดี ได้บอกผู้สื่อข่าวว่า คนร้ายไม่ได้เข้ามาวัดมานานแล้ว และไม่ได้เข้ามาร่วมงานที่วัด ส่วนสาเหตุของการใช้อาวุธปืนยิงนั้นไม่ทราบเรื่องราว แต่ยืนยันว่า เจ้าอาวาสเป็นพระที่ดี เป็นพระนักปฏิบัติ และนักพัฒนาวัดที่มีผู้รู้จักกว้างขวาง และเป็นพระที่ดี
ขณะที่นางสุภาภรณ์ ศิริรูป ภรรยาของคนร้าย ได้เล่าให้ฟังว่า สามีเป็นคนดี รักครอบครัว แต่จะเป็นคนที่เก็บกด มีอาการซึมเศร้าและอาการทางประสาท ในระยะหลัง และอยากฆ่าตัวตาย ซึ่งก่อหน้านี้ ได้มาเล่าถึงความคับข้องใจว่า เจ้าอาวาสได้ตำหนิออกทางไมค์ระหว่างการประชุม จึงนำมาบอกเล่าว่าซึ่งมองว่าเจ้าอาวาสตำหนิ ได้บอกไปว่า เขาไม่ได้ตำหนิพ่อ(คนร้าย)อย่าไปคิดอะไรมาก ซึ่งสุดท้ายเอาปืนไปยิงเจ้าอาวาสซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นสาเหตุอะไร แต่ระหว่างที่สามีไปยิงเจ้าอาวาสนั้นกำลังปฏิบัติธรรมอยู่
นอกจากนี้ระหว่างการที่ญาติเข้าไปเยี่ยมนายพินิจ ศิริรูปได้บอกกับญาติและภรรยาว่า มันไม่ใช่พระ และมันไม่ใช่เขตอภัยทาน โดยมีลักษณะเหมือนคนที่มีอาการเครียด
ด้าน พ.ต.อ.ชิตพล ยืนยาว ผกก.สภ.เมืองตราด เปิดเผยว่า สาเหตุของการสังหารครั้งน่าจะมากจากทั้งสองคนมีความขัดแย้งกันมานานกว่า 10 ปี การนำอาวุธมาก่อยิงในศาลการเปรียญนั้นยังต้องหาหลักฐานและสาเหตุจูงใจว่ามาจากเรื่องใดกันแน่ แต่เนื่องจากสภาพของคนร้ายในขณะนั้นยังไม่สามารถให้ปากคำได้ เพราะคนร้ายมีอาการทางสมองเหมือนคนที่มีอาการทางจิตและเครียด
