กรมป่าไม้ เดินหน้าฟื้นฟูป่าแม่แจ่ม สนับสนุนปลูกไม้มีค่ากว่า 1.2 ล้านต้น จับมือชุมชนสร้างฝาย ตั้งเป้า 52,000 ฝาย ในพื้นที่ 104 หมู่บ้านๆ ละ 500 ฝาย ระบุ จ.เชียงใหม่เป็น 1 ใน 13 จังหวัดนำร่องพร้อมขยายผลฟื้นฟูป่าทั่วประเทศ และให้ชุมชนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างถูกต้อง

 

เมื่อวันที่ 13 ส.ค. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้วางกรอบแนวทางการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่า โดยใช้แนวนโยบายให้คนกับป่าสามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยมุ่งเน้นให้ประชาชนได้อาศัยพื้นที่ตามความเหมาะสมและอยู่ภายใต้กฎ กติกา เพื่อช่วยกันบำรุงรักษาและใช้ประโยชน์ทรัพยากรป่าไม้อย่างสมดุล

โดยรัฐบาลได้กำหนดนโยบายในการจัดที่ดินทำกินให้กับชุมชนขึ้น มีคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ขับเคลื่อนและกำหนดแนวทางที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาที่ดินที่มีราษฎรเข้าไปถือครองพื้นที่ในเขตป่า

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ขณะที่การฟื้นฟูป่าแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ กรมป่าไม้ได้ดำเนินการตามแนวทาง อย่างต่อเนื่อง โดยฟื้นฟูพื้นที่ในกลุ่มราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่ากลุ่มที่ 3 ในพื้นที่ อ.แม่แจ่ม ซึ่งเป็นชุมชนที่อาศัยทำกินในเขตป่าสงวนแห่งชาติในลุ่มน้ำชั้น 1,2 ก่อนมติ ครม. 30 มิ.ย. 41

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

โดยกรมป่าไม้ได้กำหนดกรอบมาตรการไว้ 4 ประการ คือ

1.การจัดระเบียบการใช้ที่ดินทำกิน และรับรองการอยู่อาศัยทำกินในลักษณะแปลงรวม

2.กำกับควบคุมจัดการการใช้ที่ดินและป่าไม้ภายใต้การอนุรักษ์ และพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมิให้มีการบุกรุกขยายพื้นที่เพิ่ม

3.การฟื้นฟูสภาพป่าในรูปแบบการมีส่วนร่วมส่งเสริมให้ประชาชนปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง

4.ใช้มาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำ ควบคุมผลกระทบต่อส่งแวดล้อม เพื่อช่วยลดการชะล้างพังทลาย

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ล่าสุดกรมป่าไม้ได้ลงพื้นที่ในการติดตามโครงการจัดที่ดินให้กับชุมชน (คทช.) อ.แม่แจ่ม มีการปล่อยขบวนรถยนต์ลำเลียงกล้าไม้มีค่าจำนวน 38,000 ต้น จากเป้าหมายการแจกกล้าไม้ทั้งหมดจำนวน 1,249,095 ต้น

โดยให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ประจำพื้นที่ดำเนินการปลูกฟื้นฟูสภาพป่าร่วมกับราษฎรที่อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ลักษณะแปลงรวมตามมติ ครม. 26 พ.ย. 61 ของ อ.แม่แจ่ม โดยจะปลูกต้นไม้ตามลักษณะโครงสร้างและชนิดพันธุ์ไม้ประจำถิ่น และจะปลูกต้นไม้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของพื้นที่

“ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่จะเป็น 1 ใน 13 จังหวัดนำร่อง เพื่อขยายผลออกไปในพื้นที่จังหวัดอื่น ซึ่งจะช่วยให้พี่น้องประชาชนทุกคนสามารถอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าได้อย่างถูกต้องภายใต้เงื่อนไขกฎระเบียบที่กำหนดไว้ อีกทั้งยังเป็นการน้อมนำแนวพระราชดำริ มาใช้ในการป้องกันรักษาป่าให้เกิดความสมดุลยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม” อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าว

อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า นอกจากการดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ป่าในส่วนของภาครัฐ ภาคประชาชนก็ถือเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่ช่วยในการฟื้นฟูพื้นที่ป่า โดยจะเห็นได้จากการรวมมือของชาวบ้าน อ.แม่แจ่ม โดยมีนายอำเภอแม่แจ่มพร้อมด้วยประชาชนในพื้นที่ ได้ร่วมกันสร้างฝายประชาอาสาจำนวน 10 ตัว จากเป้าหมายทั้งหมด 52,000 ตัว ที่จะสร้างขึ้นในพื้นที่ 104 หมู่บ้าน ๆ ละ 500 ตัว ใน อ.แม่แจ่ม โดยไม่มีการของบประมาณจากทางส่วนราชการในการสร้างฝายทั้งหมด

//////

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน