รมว.ทส. เข้มสั่งศูนย์ปฏิบัติพิทักษ์ป่า ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บังคับใช้กฎหมายกับนายทุน พร้อมทำความเข้าใจชาวบ้าน ป้องกันพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งห้ามใครบุกรุกเด็ดขาด

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ไฟป่าและหมอกควัน สถานีควบคุมไฟป่าพรุควนเคร็ง ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ในฐานะผอ.ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) เดินทางลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ไฟป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช และป่าพรุทุ่งบางนกออก อ.ควนเนียง จ.สงขลา

ภายหลังได้รับข้อสั่งการจากนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในการเร่งตรวจสอบพื้นที่ที่เกิดความเสียหายจากไฟป่าพรุควนเคร็ง พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานพร้อมทั้งประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

โดยมีนายจิระศักดิ์ ชูความดี รองอธิบดีกรมป่าไม้ นายชากรี รอดไฝ ผอ.สจป. ที่ 12 (นครศรีธรรมราช) นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) นายศุภชัย สุขใส ผอ.ศปป.ที่ 4 (ภาคใต้) นายชาญชัย กิจศักดาภาพ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ผู้แทนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้แทนหน่วยงานทหาร และตำรวจ เข้าร่วมประชุม

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

นายอรรถพล กล่าวว่า ทั้งนี้จากการประชุมได้สั่งการให้ที่ประชุมดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันการบุกรุกในพื้นที่ป่าพรุโดยเด็ดขาด โดยวางมาตรการ 5 ข้อ ในการป้องกันการบุกรุกพื้นที่เสียหายโดยด่วน คือ

1.รวบรวมข้อมูลผู้ต้องสงสัย และหลักฐานอื่นๆ ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผาป่าพรุ เพื่อส่งให้ สตช. และดีเอสไอใช้ประกอบการพิจารณาดำเนินคดีต่อไป

2.นำพิกัดที่เกิดไฟไหม้ในพื้นที่ป่าพรุทั้งหมด ลงในระบบจีไอเอส เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลประกอบการพิจารณาดำเนินคดี

3.ตรวจสอบพื้นที่ด้วยภาพถ่ายทางอากาศและภาพถ่ายดาวเทียม การบุกรุกพื้นที่หลังปี 2557 เพื่อใช้ประกอบการลงตรวจสอบและดำเนินคดีหากพบผู้ไม่มีคุณสมบัติในการครอบครองที่ดิน

4.สำรวจรังวัดพื้นที่ป่าที่เกิดไฟไหม้ในปี 2562 และห้ามมิให้มีการเข้ามาใช้ประโยชน์พื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบ และหากพบเห็นการบุกรุกให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

5.จัดตั้งชุดเฉพาะกิจร่วม โดยมี กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ในการบังคับใช้กฎหมายกับนายทุนและผู้ที่บุกรุกใหม่ โดยให้มีแผนการสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ไปพร้อม ๆ กัน

อธิบดีกรมป่าไม้ เผยว่า รมว.ทส. ได้เน้นย้ำว่าต้องไม่มีการบุกรุกในพื้นที่ป่าที่เกิดไฟไหม้อย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ด้วย

นอกจากนี้ยังคงต้องมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยขอความร่วมมือจากภาคประชาชนหากพบเหตุไฟป่า ตลอดจนเฝ้าระวังการบุกรุกพื้นที่ที่เกิดเหตุไม่ให้มีผู้ใดเข้ามาบุกรุกในพื้นที่ สามารถแจ้งมาทางสายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าระงับเหตุได้ทันสถานการณ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน