อธิบดีราชทัณฑ์ แจงยิบ! ก่อสร้างคุกไม่โปร่งใส-ล็อกสเปกอุปกรณ์เสริมมั่นคง หลังมีคนยื่นบัตรสนเท่ห์ร้อง รมว.ยุติธรรม หวั่นสังคมเข้าใจผิด-กระทบภาพลักษณ์

จากกรณีมีกระแสข่าวเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสและการล็อกสเปกอุปกรณ์เสริมความมั่นคงในเรือนจำ 4 แห่งของกรมราชทัณฑ์ โดยมีผู้ไม่ประสงค์จะออกนามยื่นเรื่องเป็นบัตรสนเท่ห์ ไปยังรมว.ยุติธรรม และต่อมาในวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีทีมงานของรัฐมนตรีฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง จ.ระยอง นั้น

ล่าสุดวันที่ 18 ส.ค. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า โครงการก่อสร้างเรือนจำมีองค์ประกอบอยู่ 2 อย่าง คือ 1.ตัวอาคารหรือโครงสร้าง และ 2.ระบบเสริมความมั่นคง เช่น ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด, ระบบควบคุมการเข้าออก, รั้วไฟฟ้าแรงสูง และระบบตัดสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อป้องกันผู้ต้องขังหลบหนี และป้องกันการลักลอบใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เคยมี

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวต่อว่า ดังนั้น ระบบเสริมความมั่นคงจึงเป็นระบบที่สำคัญและเป็นหัวใจในการควบคุมผู้ต้องขัง อุปกรณ์เหล่านี้มีหลายยี่ห้อที่ผู้ประมูลจะสามารถนำมาเสนอได้ ผู้ร้องเรียนอาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าราคาต่ำที่สุด คือผู้ชนะโดยมิได้สนใจในความต้องการของกรมราชทัณฑ์ ที่ต้องการระบบเสริมความมั่นคง นำมาควบคุมผู้ต้องขังให้ได้ประสิทธิภาพไม่เป็นภัยต่อสังคม

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า การประกวดราคาด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง ตามพ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ทุกประการ ทุกขั้นตอน มีความโปร่งใสและยึดถือประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ

“ขอเรียนว่า ยังไม่ได้รับคำสั่งหรือข้อสั่งการจากกระทรวงยุติธรรมให้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด การออกข่าวในเชิงลบและตั้งธงว่าอาจจะมีการทุจริต อาจเป็นการชี้นำให้สังคมเข้าใจผิด ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กร ตลอดจนขวัญและกำลังใจของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทุกคน นอกจากนี้เบื้องหลังของการร้องเรียนดังกล่าว อาจเป็นความพยายามของผู้ไม่ชนะการประมูลบางรายยื่นเรื่องร้องเรียนขึ้นมา โดยใช้ฝ่ายการเมืองเป็นเครื่องมือเพื่อหาหนทางล้มเลิกโครงการที่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบของทางราชการทุกประการ ตนจึงไม่อยากให้ใครต้องตกเป็นเครื่องมือของขบวนการดังกล่าว” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวยืนยันว่า ได้ปฎิบัติตามนโยบายรัฐบาลอย่างเคร่งครัดตลอดมา จนได้รับรางวัลต่าง ๆมากมาย เช่น รางวัลการประเมินผลระดับคุณธรรมและความโปร่งใส จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ รางวัลองค์กรที่ความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลังของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง และรางวัลหน่วยงานบริหารทรัพยากรบุคคลดีเด่น (ด้านความโปร่งใสด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล) จากสำนักงาน ก.พ. เป็นต้น

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวด้วยว่า ตนได้ยึดถือนโยบาย 3 ส. คือ สะอาด สุจริต และ เสมอภาค เป็นหลักในการบริหารงาน ได้ตั้งปณิธานไว้ว่าจะไม่ซื้อขายตำแหน่ง ไม่ค้าขายหรือมีประโยชน์ทับซ้อน กับทางราชการ และไม่เบียดเบียนผู้ใต้บังคับบัญชา โดยส่วนตัวมีความเคารพและนับถือท่านรัฐมนตรีเป็นอย่างสูง แต่อยากเรียนเสนอให้มีการทบทวนและปรับปรุงแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่างทีมงานฝ่ายการเมือง กับข้าราชการประจำให้เป็นไปอย่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน โดยยึดผลประโยชน์ของทางราชการเป็นหลัก ไม่เปิดประเด็นออก สื่อรายวัน โดยไม่สอบถามข้อเท็จจริงหรือเปิดโอกาสให้ทางส่วนราชการได้ชี้แจงอย่างเป็นกิจจะลักษณะเสียก่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน