เด้งตร. สน.ประชาชื่น ปมหนุ่มโวยโดนซ้อมน่วม ตั้งกก.สอบ ผิดจริงโดนอาญา-วินัย

เด้งตร. สน.ประชาชื่น ปมหนุ่มโวยโดนซ้อมน่วม สั่งให้มาประจำที่ ศปก.บก.น.2 พร้อมทั้งตั้งกรรมการสอบสวน ผิดจริงโดนทั้งอาญา-วินัย

เด้งตร. / เมื่อวันที่ 23 ส.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีโลกโซเชียลมีเดียนำเสนอข่าว เกี่ยวกับหนุ่มโวย!ถูกชายอ้างตัวเป็นตร. ขอตรวจฉี่-ถูกซ้อมน่วม ซ้ำไม่เจอให้เงิน 100 ซื้อยากินเอง และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลายว่า ขอเรียนว่าได้รับรายงานจาก บก.น.2 ว่า

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัด สน.ประชาชื่น โดยเหตุการนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น ออกตรวจในพื้นที่ เมื่อมาถึงบริเวณอู่รถทัวร์นครชัยแอร์ พบชายต้องสงสัย จำนวน 1 ราย มีพิรุธ จึงเข้าไปแสดงตัวขอตรวจค้น และตรวจปัสสาวะ

จากนั้นได้เชิญตัวชายคนดังกล่าวไปที่สถานีตำรวจ เพื่อตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง โดยผลการตรวจไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย และสารเสพติดในร่างกายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้พูดคุยปรับความเข้าใจ และไม่ติดใจเอาความกัน พร้อมปล่อยตัวชายคนดังกล่าวไป

ต่อมาชายคนดังกล่าวได้มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ให้เอาผิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคู่กรณีที่เกี่ยวข้อง ที่เข้ามาตรวจสอบกอดปล้ำ กระทบกระทั่ง ทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น รวมทั้งมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องมาประจำที่ ศปก.บก.น.2 และให้คณะกรรมการรายงานผลให้ทราบโดยเร็ว หากพบข้อบกพร่องหรือกระทำผิดจริง มีพฤตินอกรีต เรียกรับผลประโยชน์อื่นใด หรือแม้กระทั่งใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ ก็จะดำเนินทางวินัยและอาญา อย่างเด็ดขาดต่อไป

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

อีกทั้ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับและกวดขันให้ผู้บังคับบัญชาของทุกหน่วยในสังกัด ลงไปตรวจสอบและดูแลการปฎิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชามาโดยตลอด ซึ่งลงทัณฑ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กระทำในลักษณะนี้ทั้ง ไล่ออก ปลดออก ให้ออก หากความผิดปรากฎชัดเจน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศมาโดยตลอดไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี

ทั้งนี้หากประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแส สามารถแจ้งมาได้ที่หมายเลขสายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชม.